วันจันทร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

กลางคืนพวกหนูหลับนี่นา


วรรณกรรมประเภทเรื่องสั้นที่เขียนเป็นภาษาเยอรมัน
โดยนักเขียนมีชื่อนั้น ปรากฏว่ามีอยู่เป็นจำนวนมาก อีกทั้งสูงด้วยคุณค่าในแง่ต่างๆ 
ด้วยเหตุฉะนี้ การพิจารณาเพื่อคัดเลือกเรื่องนำแปล จึงไม่ใช่สิ่งที่จะทำได้อย่างง่ายดายเลย
ในหนังสือมือสองเล่มนี้ ผู้แปลจึงคัดเลือกเอาเรื่องที่ตนอ่านแล้วเกิดความรู้สึกชอบเป็นพิเศษ
คือชอบมากจนใคร่อยากจะถ่ายทอดออกมาเป็นภาษาไทย 
ให้คนไทยได้มีโอกาสสัมผัสวรรณกรรมของเยอรมันที่ตนเองชอบนี้เป็นสำคัญ
วรรณกรรมแปลที่รวมอยู่ในเล่มนี้ จะช่วยทำให้ผู้อ่านเกิดความเพลิดเพลินบ้าง 
ไม่ว่าด้านอารมณ์หรือทางแง่คิดก็ดี

กลางคืนพวกหนูหลับนี่นา 
หนังสือมือสอง : กลางคืนพวกหนูหลับนี่นา
ผู้เขียน : หลายคนเขียน
ผู้แปล : อรัญญา พรหมนอก
จำนวน : ๑๔๘ หน้า
ขนาด : ๑๑๐ x ๑๘๕ มม.
สำนักพิมพ์ : วลี
พิมพ์ครั้งที่ : ๑
เดือนปีที่พิมพ์ : มิถุนายน ๒๕๓๐

รวมเรื่องสั้นเยอรมันในหนังสือมือสองเล่มนี้ มี...

กลางคืนพวกหนูหลับนี่นา (Nachts Schlafen Die Ratten Doch) - โวลฟ์กัง บอร์แชร์ท

ได้รับการตีพิมพ์ครั้งแรก ในปี ค.ศ. ๑๙๔๗ ซึ่งบรรยายให้เห็นถึงสภาพของเยอรมัน
ในช่วงแรกเมื่อสงครามสิ้นสุดลง ทุกสิ่งทุกอย่างถูกทำลาย
ทั้งทรัพย์สิน บ้านเรือน และชีวิต คงเหลือทิ้งไว้ก็แต่ซากปรักหักพัง
และร่องรอยแห่งความตาย ความพิการ ผู้คนอดอยาก ไร้ที่อยู่อาศัย โศกเศร้า ท้อแท้และหมดหวัง



Nachts Schlafen Die Ratten Doch แปลโดย อรัญญา พรหมนอก

วิธีต้านอำนาจ (Massnahmen Gegen Die Gewalt) - แบร์ทอล เบรช์ท
ได้รับการตีพิมพ์ครั้งแรก ในปี ค.ศ. ๑๙๓๐ เป็นเรื่องเชิงเสียดสีและวิพากษ์วิจารณ์สังคม
เบรช์ทเขียนผลงานทั้งบทละคร เรื่องเล่า และบทกวี
เขาได้ชื่อว่าเป็นนักประพันธ์ที่ยิ่งใหญ่มีอิทธิพลต่อนักประพันธ์รุ่นหลัง

การทดสอบ (Die Probe) - แฮร์แบร์ท มาเลชา
ได้รับรางวัลเรื่องสั้นดีเด่นในหนังสือ Die Zeit โดยตีพิมพ์ครั้งแรก ในปี ค.ศ. ๑๙๕๖
นับเป็นเรื่องสั้น "แนวใหม่" ของเยอรมันถัดจากยุคเรื่องสั้นแนวสงครามของเยอรมัน

บ้านสีเหลือง (Das Gelbe Haus) - เรเน่ ชิคเคเล่
ได้รับการตีพิมพ์ครั้งแรก ในปี ค.ศ. ๑๙๕๖ เป็นผลงานชิ้นหนึ่งที่แสดงให้เห็นชัดถึงสไตล์การเขียนแบบของเขา
อันแสดงให้เห็นถึงความพยายามที่จะต่อสู้เพื่อความเสมอภาคแห่งชนชาติ และต่อต้านสงคราม
แต่ในช่วงหลังของชีวิต ผลงานของเขาจะเน้นปัญหาของสังคมทั้งแง่มนุษยชาติและการเมือง

ไปยกลอบ (Reusenheben) - โวล์ฟดีทริช ชนัวเร่
ได้รับการตีพิมพ์ครั้งแรก ในปี ค.ศ. ๑๙๔๙ เกี่ยวกับเจ้าหนูคนหนึ่งที่มีความรู้สึกนึกคิดปกติดีอยู่หรือ
ทำไมจึงกังวลแต่เรื่องที่ตนจะทำ เรื่องโรงเรียน การกลับบ้านให้ตรงเวลา
กังวลมากมายเสียจนไม่ได้ใส่ใจเหตุการณ์แวดล้อมอื่นๆ เลย แม้ว่ามีคนถูกฆ่าตายต่อหน้าต่อตา

หลักปักเขต (Das Mal) - ฮันส์ เอริช นอสสักค์
ได้รับการตีพิมพ์ครั้งแรก ในปี ค.ศ. ๑๙๕๑ โดยเขามีผลงานมากมาย
ทั้งที่เป็นบทกวี นวนิยาย เรื่องสั้น บทละครเวที และบทละครวิทยุ
และนอสสักค์ก็มีงานหลายชิ้นที่ได้รับรางวัลวรรณกรรม เขาเสียชีวิตเมื่อปี ค.ศ. ๑๙๗๗

ขั้นบันไดโรงแรม (Die Hoteltreppe) - ฟรานซ์ แวร์เฟิล
ได้รับการตีพิมพ์ครั้งแรก ในปี ค.ศ. ๑๙๒๙ และเขาเสียชีวิตเมื่อปี ค.ศ. ๑๙๔๘
ในผลงานวรรณกรรมของฟรานซ์ จะแสดงออกถึงข้อคิดและปรัชญาที่น่าสนใจหลายประเด็น
ในแง่วรรณศิลป์แล้ว ผลงานของเขาได้รับการยกย่องว่าดีเด่น มีความประณีต และแจ่มชัดรัดกุม

.



วันศุกร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

วัน-เดือน-ปี

ความเรียงเกี่ยวกับสิ่งที่คุณรู้แล้ว แต่อาจจะยังไม่รู้สึกมากพอ

วัน-เดือน-ปี ของ ญามิลา ในหนังสือมือสองเล่มนี้นั้น...
สื่อสารความคิดและความรู้สึกออกไปในสัดส่วนพอๆ กัน
และพยายามเขียนอย่างง่ายๆ เพื่อผู้อ่านจะได้รับสารอย่างตกหล่นน้อยที่สุด
ส่วนทำไมต้อง วัน-เดือน-ปี ก็เพราะนี่คือสิ่งที่สมมุติที่คนเราเกี่ยวข้องด้วยมากที่สุด
เป็นทั้งความผูกพันและพันธะที่ต้องอยู่กับผู้คนจนกว่าจะเลิกหายใจ

หนังสือมือสอง : วัน-เดือน-ปี
ผู้เขียน : ญามิลา
จำนวน : ๑๖๘ หน้า
สำนักพิมพ์ : บีเยศ
พิมพ์ครั้งที่ : ๑
เดือนปีที่พิมพ์ : กุมภาพันธ์ ๒๕๔๔


วัน เดือน ปี
"ผม-ในฐานะคนอ่าน-ได้คิดต่ออีกหลายอย่างจากงานของ ญามิลา 
อาจจะนับว่าเป็นความสำเร็จอีกซีกหนึ่งของคนเขียนหนังสืออาชีพ
นอกเหนือจากความสามารถในการสรรหาเรื่องราวต่างๆ มาเขียน
และการเรียบเรียงถ้อยคำให้จูงใจคนอ่าน

โชคดีที่ผมไม่ใช่นักเขียนโดยธรรมชาติ 
เพราะการเขียนสื่อสารให้คนอ่านเข้าใจง่ายๆ ก็ยังลำบากยากเข็ญ
อย่าว่าแต่เขียนให้คมและมีความหมายอยู่ทุกคำ
แต่โชคดีกว่าที่ผมและหลายๆ คน มี ญามิลา ให้อ่าน..."

-บางถ้อยคำจาก ทิวา สาระจูฑะ

วัน-เดือน-ปี โดย ญามิลา
เคยใช่ไหมที่อยากอยู่คนเดียว ไม่อยากพบหน้าใคร แต่บางวันอยากพบผู้คนใจแทบขาด
แล้วใจก็รอนๆ อยู่ตรงนั้น เพราะไม่มีใครเลย มนุษย์ปรับตัวให้เข้ากับสิ่งต่างๆ ได้ไม่ยาก 
แต่การปรับใจตนเองให้เป็นไปตามโลกนั้นแสนยาก พอใจไม่ได้เสียอย่าง สิ่งต่างๆ ก็พลอยเสีย
แต่ได้แล้ว แม้ความตายก็ยังเป็นเรื่องเล็กน้อย
- คน + ตนเอง = โลก -

***

ความรักกับความใคร่ บางคราวมาด้วยกัน อีกบางคราวไม่ได้มา
โชคดีที่พระเจ้าธรรมชาติไม่ได้เลือกสร้างแต่ความใคร่ หากให้ความรักอยู่เป็นเพื่อนด้วย
เกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียในดอกไม้เคยเกิดอารมณ์เพศบ้างไหมนะ
หรือความรู้สึกชนิดนี้เป็นเฉพาะคนและสรรพสัตว์เท่านั้น
ผมว่าพวกเรารู้อะไรๆ เกี่ยวกับต้นไม้ไม่ทั้งหมดหรอก เหมือนที่เรายังรู้จักโลกใบนี้น้อยเกินไป
- ความต่างๆ -

***

คนแก่นอนน้อย นอนไม่ค่อยหลับและตื่นเช้า เหมือนรู้ว่าโลกตรงหน้าเหลือเวลาให้ดูอีกไม่เท่าไร
เด็กๆ รู้แค่หิว ขับถ่าย แล้วก็ง่วง ข้างในยังไม่มีอะไรให้รู้สึก 
เหมือนหลับๆ แล้วฝันเลือนราง ไม่มีใครจำตอนแบเบาะได้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง 
หนุ่มสาวจำนวนมากปล่อยเวลาไปกับเรื่องไร้สาระที่นำมาเป็นสาระ 
ชั่วพริบตาหากไม่ได้ลงมือทำในสิ่งที่อยากทำ ก็หมดโอกาส
เพราะเมื่อรู้สึกสนุก เมามัน เวลามักสั้นเสมอ
- นาฬิกาชีวิต -


วันเสาร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

เด็กชายหอยนางรม

The Melancholy Death of Oyster Boy & Other Stories
Tim Burton

เด็กชายหอยนางรม...หนังสือมือสองเล่มนี้
เป็นบทกวีประกอบภาพเปี่ยมด้วยจินตนาการอันหลุดออกนอกกรอบความเป็นไปได้จริง
แต่ละเรื่องใช้ตัวละครพิลึกพิลั่นและเรื่องราวอันประหลาดวิปลาส

หนังสือมือสอง : เด็กชายหอยนางรม
ผู้เขียน : ทิม เบอร์ตัน
ผู้แปล : 'ปราย พันแสง
จำนวน : ๑๔๔ หน้า
สำนักพิมพ์ : มติชน
พิมพ์ครั้งที่ : ๒
เดือนปีที่พิมพ์ : กันยายน ๒๕๔๔

เด็กชายหอยนางรม
ตัวละครของ ทิม เบอร์ตัน ในหนังสือเล่มนี้ส่วนใหญ่จะเป็นเด็ก
นอกจากจะทำให้คนอ่านงุนงงตกใจเหมือนถูกโยนลงในหุบเหวอันมืดมิดแล้ว
หลายเรื่องยังอาจจะก่อให้เกิดการปะทะกันทางอารมณ์และความคิดอย่างหนักหน่วง
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ เด็กชายหอยนางรม, เด็กชายหัวแตงโม, เด็กชายตะปู, หรือราชินีหมอนปักเข็มหมุด

น่าแปลกที่หนังสือมือสองเล่มนี้ เด็กชายหอยนางรม ถูกประเภกจัดไว้เป็นบทกวีสำหรับเด็ก
นอกเหนือไปจากบทกวีจินตนาการ และบทกวีมนุษย์ไม่ปกติ
ในขณะที่ผู้อ่านหรือนักวิจารณ์บางคนเห็นว่าหนังสือเล่มนี้ไม่เหมาะกับเด็ก

The Melancholy Death of Oyster Boy & Other Stories
ชีวิตไม่ใช่เรื่องง่าย
สำหรับราชินีหมอนปักเข็มหมุด
เมื่อเธอนั่งบัลลังก์
ประดาเข็มเหล็กแหลมจักประดังเสียบตับม้ามไต
ให้เจ็บปวดทรมานกายอย่างที่สุด

ทิม เบอร์ตัน เขียน / 'ปราย พันแสง แปล
ครั้งแรกและครั้งเดียว
ที่ฉันเห็นเด็กชายรอยร้องไห้
คือเมื่อเขาเจอน้ำเกลือหยดใส่ตา

เช้าวันหนึ่งอากาศแจ่มใส
พวกเขาจับรอยไปไว้ในสวน
สีหน้ารอยค่อยๆ ซีดเผือด
เนื้อตัวเริ่มแข็งทื่อ

***

เชื่อว่าแต่ละภาพแต่ละหน้าที่พลิกอ่านไป จะกระตุ้นให้เกิดจินตนาการไม่รู้จบ
เกิดคำถามที่ไม่มีคำตอบ ทว่าชวนให้ขบคิดไปได้ไม่สิ้นสุด
ลองพลิกไปสัมผัสกับความอัปลักษณ์อันสุนทรีย์...

วันเสาร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ฉันเกลียดเธอ ฉันรักเธอ ...ชีวิต

i hate u, love u and miss u
คนบางคนผ่านมา แต่ไม่ได้ผ่านไป แม้ว่าทุกสิ่งได้ผ่านไป...

"ฉันเกลียดเธอ ฉันรักเธอ ...ชีวิต" หนังสือมือสองเล่มนี้
เป็นการรวมบทกวี บทแปล และความเรียงของ 'ปราย พันแสง
ซึ่งผู้เขียนไม่ได้ใช้วิธี "แปลตรง" เหมือนอย่างงานแปลทั่วๆ ไป
แต่ตั้งใจเขียนโดยใช้ภาษาไทยแบบของเธอเอง
โดยสอดแทรกมุมมอง ความคิด และความรู้สึกของเธอต่อบทกวีหลายๆ ชิ้นลงไป

หนังสือมือสอง : ฉันเกลียดเธอ ฉันรักเธอ ...ชีวิต
ผู้เขียน :  'ปราย พันแสง
จำนวน : ๑๖๐ หน้า
ขนาด : ๑๖ หน้ายกพิเศษ
สำนักพิมพ์ : ฤดูร้อน
พิมพ์ครั้งที่ : ๓
เดือนปีที่พิมพ์ : กันยายน ๒๕๔๔

ฉันเกลียดเธอ ฉันรักเธอ ...ชีวิต จึงเป็นคล้ายมุมมองเรื่องชีวิตของ 'ปราย พันแสง
ที่ชอบลอบสังเกตชีวิตของผู้คน และมักปรากฏในงานเขียนของเธออยู่บ่อยครั้ง

ฉันเกลียดเธอ ฉันรักเธอ ...ชีวิต
ฉันไม่ได้เขียนบทกลอน บทกวี หรืออะไรทำนองนี้มานานแล้ว แต่ยังอ่านอยู่บ้าง
ฉันมีเพื่อน มีมิตร มีใครบางคนในชีวิตที่ชอบบทกวีเหล่านี้ และมักส่งมาให้ฉันอ่านอยู่เสมอ
จากจุดนี้เองที่ทำให้ฉันอยากค้นหาความหมาย ค้นหาสิ่งต่างๆ ในบทกวีเหล่านี้
ฉันไม่เพียงแต่ได้ค้นหาความหมายในบทกวีหรือข้อเขียนเหล่านั้น
แต่ฉันยังได้ค้นหาความหมายของชีวิตตัวเองและผู้คนรอบข้าง
ค้นพบบ้าง ไม่พบบ้าง แต่มีความสุขที่ได้ค้น

ฉันไม่ใช่นักแปลที่ดีนัก เพราะอ่านดูก็จะรู้ว่า... ในบางบทนั้น
ฉันไม่ได้เคารพต้นฉบับดั้งเดิมเขาเท่าไหร่ ทั้งๆ ที่ความหมายเดิมเขาออกจะดี
ฉันไม่มีอะไรจะอธิบายตรงนี้ เพราะมันเป็นความตั้งใจ แต่อย่างไรก็ตาม
เมื่อคุณอ่านหนังสือเล่มนี้ บางทีคุณอาจจะพอรู้จักรู้ใจหรือเข้าใจฉันบ้างก็ได้ว่า
ถึงไม่ได้ "เคารพ" แต่ทุกบทที่หยิบยกขึ้นมาเขียนนั้น หมายถึงว่าฉันรักมันสุดหัวใจแล้ว
หนังสือเล่มนี้จึงเป็นเหมือนของที่ระลึกของชีวิตฉันด้วย
                                                  - บางส่วนจาก "คำคนเขียน"

i hate u โดย 'pry pansang
                                 
ฉันเชื่อแล้วว่า...
มีช่วงเวลาเลิศล้ำชั่วขณะหนึ่ง
ซึ่งรักจักเดินทางมาถึงด้วยใจซื่อใส
มั่นคง อิสระ หวานละไม
ที่สำคัญเหนืออื่นใด...มีอยู่จริง

ฉันเชื่อแล้วว่า...
มีคำตอบเลิศล้ำคำตอบหนึ่ง
ซึ่งยอมรับทุกสิ่งดี ทุกสิ่งใช่
หวานหอมปลอบโยนใจ...ในวันโลกหมอง

ฉันเชื่อแล้วว่า...
มีดวงใจเลิศล้ำดวงหนึ่ง
ซึ่งเข้าใจและเชื่อใจอยู่เสมอ
ดวงใจประเสริฐเลิศเลอ...ในโลกแล้งไร้

ฉันเชื่อแล้วว่า...
มีความรักเลิศล้ำในชีวิตหนึ่ง
ซึ่งรักเดินทางมาติดปีกให้ดวงใจ 
ทะยานไปสุดขอบฟ้า
แล้วรักพลันหลุดลอยวับลับตา
ทิ้งดวงใจคว้างหล่นร่วงมา
...เคว้งคว้าง