วันเสาร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2555

ชีวจิต

ชีวจิต...การใช้ชีวิตอย่างเข้าใจธรรมชาติ
เป็นคำบอกเล่าอย่างง่ายๆ ฟังแล้วให้ความรู้สึกที่เรียบง่าย
แต่การใช้ชีวิตของคนเราทุกวันนี้ดูเหมือนไม่ง่ายเลยที่จะกระทำเช่นนั้น
หลายคนรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนรักธรรมชาติ  คือ รักป่าเขาลำเนาไพร รักทะเลกว้าง
เมื่อยามเราไปท่องเที่ยวสัมผัสไอดินกลิ่นป่า หรือกระแสลมเย็นฉ่ำชื่น
โน้มนำจิตใจเข้าเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ เราก็จะรู้สึกสดชื่น อิ่มเอมไปชั่วขณะ
ก่อนที่จะกลับไปอยู่ในโลกของวัตถุและสังคมเฉพาะมนุษย์ต่อไป

หนังสือมือสอง : ชีวจิต
ผู้เขียน : สาทิส อินทรกำแหง
จำนวน  : ๑๓๒ หน้า
ขนาด : ๑๖ หน้ายกพิเศษ
สำนักพิมพ์ : คลินิกบ้านและสวน
พิมพ์ครั้งที่ : ๒๐
เดือนปีที่พิมพ์ : มิถุนายน ๒๕๔๑

ชีวจิต
จากพื้นฐานความเข้าใจทางชีวภาพอย่างลึกซึ้ง ผนวกกับการฝึกจิต
ตั้งแต่การฝึกสมาธิ การมีจิตใจที่นอบน้อม ใฝ่สังเกตศึกษา
การรู้จักความสุขจากการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้อื่น การรู้จักชื่นชมกับธรรมชาติ
การทำจิตใจให้เบิกบานแจ่มใสอยู่ตลอดเวลา เหล่านี้ทำให้การใช้ชีวิตอย่างเข้าใจธรรมชาติ
ตามแนวทางชีวจิตของอาจารย์ ดร.สาทิส อินทรกำแหง มีคุณค่าแก่มนุษยชาติเป็นอย่างยิ่ง

ท่านยังเป็นคนแรกที่นำความรู้ด้านแมคโครไบโอติกส์ที่พัฒนาขึ้นจากอาหารของพระเซน ญี่ปุ่น
มาเผยแพร่ในประเทศไทย และต่อมาท่านก็ประยุกต์เป็นแมคโครไบโอติกส์แบบไทย
ที่เหมาะสมกับธรรมชาติของอาหารไทยและวัฒนธรรมการกินของไทย
เรียกว่า อาหารชีวจิต ซึ่งได้รับความนิยมแพร่หลายในปัจจุบันนี้

ชีวจิตก็ต้องมีหลักเกณฑ์ มีความพอดี เดินสายกลาง
ถ้าหากเข้าใจว่าธรรมชาติคืออะไรแล้ว
เราก็ย่อมจะเข้าใจว่าการปรับตัวให้เข้ากับธรรมชาติ
และการยึดธรรมชาติเป็นหลักในการดำรงชีวิตนั้นคืออย่างไร


***
ชีวิต...อยู่ได้เพราะธรรมชาติ 
เรียนได้จากธรรมชาติ
ศึกษาปรัชญาชีวิต...จากธรรมชาติ
ไม่มีธรรมชาติ...ก็ไม่มีชีวิต
.

วันศุกร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2555

ความลับของเจ้าหญิง

หนังสือที่ตีแผ่เบื้องหลังพระราชวงศ์วินด์เซอร์ที่คนภายนอกไม่มีโอกาสได้สัมผัส
โศกนาฏกรรมบันลือโลกที่ทุกคนเคยจับตามองว่าเป็น "อุบัติเหตุ" หรือ "ฆาตกรรม"
เรื่องเล่าจาก พอล เบอร์เรล ผู้อ้างว่าเป็นข้ารับใช้คนสนิท ผู้ถวายการรับใช้เจ้าหญิงไดอาน่าด้วยชีวิต

หนังสือมือสอง : ความลับของเจ้าหญิง
ผู้เขียน : พอล เบอร์เรล
ผู้แปล : วรรธนา วงษ์ฉัตร
จำนวน  : ๖๐๘ หน้า
ขนาด : ๑๖ หน้ายกพิเศษ
สำนักพิมพ์ : เดอะ ซัน
พิมพ์ครั้งที่ : ๑
เดือนปีที่พิมพ์ : มีนาคม ๒๕๔๗


A Royal Duty 
สิ่งที่คุณกำลังอ่านคือมรดกที่คนบางคนพยายามจะทำให้เรื่องนี้เงียบ และต้องการทำลาย...

ความลับของเจ้าหญิงไดอาน่า
"...กำลังวางแผนให้เกิด 'อุบัติเหตุ' ในรถจองฉัน ให้เบรกเสีย 
และให้ศีรษะของฉันได้รับบาดเจ็บสาหัส
เพื่อเปิดทางให้เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ได้อภิเษกสมรส"
นี่คือเนื้อความบางตอนในลายพระหัตถ์ที่ เจ้าหญิงไดอาน่า ทรงเขียนถึง พอล เบอร์เรล
ที่ปรากฏอยู่ในหนังสือเล่มนี้ พร้อมกับความสงสัยว่าการสิ้นพระชนม์ของเจ้าหญิงไดอาน่า
จะเป็นเพียงอุบัติเหตุหรือการฆาตกรรมกันแน่ และถ้าหากว่าเป็นการฆาตกรรม...
แล้วใครล่ะคือฆาตกรที่อยู่เบื้องหลังการกระทำอันโหดร้ายนี้--

หนังสือมือสองเรื่องนี้ เป็นการเปิดเผยถึงชีวิตจริงของ เจ้าหญิงไดอาน่า
ตั้งแต่พระองค์ทรงก้าวเข้าสู่พระราชวังบักกิ้งแฮมด้วยวัยเพียงสิบเก้า
ไม่ว่าจะเป็นชีวิตที่มีความสุขหรรษาหรือทุกข์ระทม และสิ่งที่เจ้าหญิงได้ทรงรู้เห็น ได้ทรงสัมผัส
ซึ่งพระองค์ได้ทรงถ่ายทอดความลับเหล่านี้ให้ พอล เบอร์เรล เป็นผู้เก็บรักษาด้วยความไว้วางพระทัย
ไม่ว่าจะเป็นทั้งข้าวของ หรือลายพระหัตถ์ที่ไม่ควรเปิดเผย

ทว่าความลับที่ถูกแฉนี้ก็เกิดขึ้นเนื่องจาก พอล เบอร์เรล ถูกตั้งข้อหาว่า...
เป็นผู้ขโมยข้าวของของพระราชวงศ์ ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว เจ้าหญิงไดอาน่า 
ได้ประทานให้เขาด้วยความเต็มพระทัย และการถูกถามถึง "ต้นฉบับบันทึกเหตุการณ์"
ซึ่งจุดมุ่งหมายก็คือ การทำลายเพื่อลบหน้าประวัติศาสตร์ของอังกฤษที่เสื่อมเสียทิ้งไป

การพยายามยัดเยียดข้อหาเหล่านี้ ทำให้ พอล เบอร์เรล ต้องตกเป็นจำเลยในคดีอาญา
และคำถามนั้นเองที่จุดประกายความคิดของเขาขึ้นมา
พอล เบอร์เรล จึงเริ่มต้นบันทึกเหตุการณ์ทั้งหมด และนำมาถ่ายทอดให้สาธารณชนได้รับรู้
ใน ความลับของเจ้าหญิง หรือ A Royal Duty 
ซึ่งผลก็คือมันได้สร้างความเสียหายให้กับพระราชวงศ์อย่างมหาศาล

พอล เบอร์เรล เขียนในส่วนคำขอบคุณ ไว้ว่า...

"การรวบรวมเรื่องราวของหนังสือ ความลับของเจ้าหญิง
ถือเป็นคำสรรเสริญของผมที่มีต่อชีวิตและงานของเจ้าหญิง"

วันพุธที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2555

หลักแห่งการเป็นคน

The Spiritual Science of Living โดย Parinya Tansakul MBA., MS.
มนุษย์เป็นสรรพสิ่งหนึ่งในจักรวาล
ที่มีโครงสร้างทางชีววิทยาอันสลับซับซ้อนและมีกลไกต่างๆ ที่แยบยล
จนกลายเป็นเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปและธรรมรูปที่ยอดเยี่ยมที่สุด
ในบรรดาทุกสรรพสิ่งซึ่งดำรงอยู่ในจักรวาลอันไพศาลนี้

มนุษย์ใช้เครื่องยนต์แห่งกรรมของตน คิดดี ทำดี พูดดี ต่อผู้อื่นยากขึ้นทุกวัน
มนุษย์ทำความดีงามได้ยากยิ่งกว่าทำในสิ่งไม่ถูกต้อง

หนังสือมือสอง : หลักแห่งการเป็นคน
ผู้เขียน :  ปริญญา ตันสกุล
จำนวน  : ๓๐๒ หน้า
ขนาด : ๑๖ หน้ายกพิเศษ
สำนักพิมพ์ : จิตจักรวาล
พิมพ์ครั้งที่ : ๑
เดือนปีที่พิมพ์ : ธันวาคม ๒๕๔๕

หลักแห่งการเป็นคน
ถ้าคุณเป็นมนุษย์คนหนึ่ง...
ที่มองเห็นความเบี่ยงเบนทางจิตสำนึกของตนเองและผู้อื่นในระดับที่ต้องเยียวยา
มองเห็นความปริร้าวหนักของประชาคมโลกอันเกิดจากการป่วยทางจิตเพราะรักไม่เป็น
และมองเห็นความบกพร่องต่อหน้าที่ 
เพราะไม่รู้หน้าที่ของการเป็นสรรพสิ่งหนึ่งในจักรวาลนี้ของบรรดามนุษย์โลกทั้งหลาย
อันล้วนนำพาความเสื่อมสมดุลมาให้สังคมโลกในลักษณะของศึกสงคราม
และความเสื่อมสมดุลของจักรวาลในลักษณะของปรากฏการณ์วิปริตทางธรรมชาติที่รุนแรงยิ่งขึ้นทุกวัน

ถ้าคุณเชื่อในสิ่งที่คุณเห็นนั้น ก็จงมั่นใจเถิดว่ามันคือปัญหาใหญ่ระดับโลกและจักรวาล
อันเกิดจากการที่ มนุษย์ยังไม่ฉลาดที่จะเป็นมนุษย์ กันอยู่อีกมากมายนั่นเอง

มนุษย์ทุกคนจะต้องให้ความร่วมมือกัน โดยอาจยึดเอาแนวทางปฏิบัติ
และแนวคิดอันหลากหลายในหนังสือ "หลักแห่งการเป็นคน" เล่มนี้ 
ควบคู่กับข้อสัจธรรมของเอกองค์พระศาสดาแห่งศาสนาที่เป็นสากลทั้งหลาย
เพื่อใช้เป็นธรรมนูญในการดำเนินชีวิตและใช้ซ่อมแซมจิตสำนึกส่วนเสี้ยว
ที่บกพร่องของตนเองอย่างจริงจังมากขึ้นกว่าในอดีตที่ผ่านมา...

ขอเพื่อนมนุษย์ทั้งหลายจงโปรดรับรู้ด้วยว่า...
"ผู้ฉลาดที่จะเป็นมนุษย์อย่างแท้จริงเท่านั้น
จึงจะช่วยค้ำจุนสังคมของตนเอง
รวมทั้งโลกและจักรวาลอันไพศาลนี้"

วันอังคารที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2555

ห้วงเสน่หา

กามคดีเปรียบเทียบจาก ๓ เรื่องสั้นขนาดยาว
ปรัชญารักที่ไม่มีบทลงท้าย
ชู้
ราคาพรหมจรรย์
ที่ให้เราได้ทั้งน้ำใจในดวงตา และน้ำตาในดวงใจ

หนังสือมือสอง : ห้วงเสน่หา
ผู้เขียน : หยก บูรพา
จำนวน  : ๑๒๐ หน้า
ขนาด : ๑๖ หน้ายกธรรมดา
สำนักพิมพ์ : บุ๊คแบงก์
พิมพ์ครั้งที่ : ๑
เดือนปีที่พิมพ์ : ๒๕๔๐

หนังสือมือสองเล่มนี้เป็นภาพสะท้อนบางด้านของความรัก-ความใคร่ในอีกแง่มุมหนึ่ง
เผยให้เห็นถึงส่วนตื้นลึกหนาบางภายในจิตใจคนเรา เมื่อตกอยู่ใน "ห้วงเสน่หา"
ซึ่งถึงที่สุดแล้วปริศนาที่ซ่อนอยู่หลังม่านอารมณ์ปรารถนาของมนุษย์
ยังคงเป็นโจทก์ที่ยากยิ่งแก่การตัดสิน...

ห้วงเสน่หา
สำหรับ  "ห้วงเสน่หา" เล่มนี้ ข้าพเจ้าได้คัดเรื่องสั้นขนาดยาวจำนวนสามเรื่องมารวมไว้
ซึ่งทั้งสามเรื่องนี้มีกลิ่นไอของความรักความเสน่หา
หากแต่ผิดแผกแตกต่างกันออกไปในเนื้อหา และบรรยากาศของเรื่อง
ทว่าตรงตามชื่อเล่มที่ตั้งไว้ว่า... "ห้วงเสน่หา
อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นเรื่องราวของความรักความเสน่หาดังปรากฏในชื่อเรื่องและชื่อเล่ม
ข้าพเจ้าก็รู้ตัวเองดีว่าไม่ใช่นักเขียนเรื่องรักประเภทพาฝันหรือหวานจ๋อย
ข้าพเจ้าชอบที่จะสะท้อนความรู้สึกนึกคิดของตัวละครออกมาทั้งในแง่บวกแง่ลบ ในมุมมืดและมุมสว่าง
เพราะฉะนั้นกลิ่นไอของความโรแมนติกแบบสายลมแสงแดด ดอกไม้บาน ฯลฯ
จึงค่อนข้างจะอยู่ห่างไกล
แต่ถ้าใครต้องการอ่านแง่มุมของชีวิตและความรัก-ความใคร่ที่เป็นไปได้จริงๆ แล้ว
ข้าพเจ้าเชื่อว่าคงจะได้ "อะไร" บ้าง ไม่น้อยทีเดียว...

                                                    บางตอนจากใจผู้เขียน หยก บูรพา


วันจันทร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2555

การบริหารด้วยระบบศรัทธาและจรรยาบรรณทางธุรกิจ

การบริหารด้วยระบบศรัทธา เป็นการบริหารคลาสสิกที่มีมานานในวงการการบริหารระดับสูง
ซึ่งเป็นการบริหารที่มีประสิทธิภาพที่สุดในบรรดากลยุทธ์การบริหารทั้งหมดที่มนุษยชาติใช้กันอยู่
จึงได้ทำการวิจัยเชิงระบบ เพื่อจัดให้เป็นรูปแบบมาตรฐานที่วงการทั้งหลายจะได้นำไปประยุกต์ใช้

หนังสือมือสอง : การบริหารด้วยระบบศรัทธาและจรรยาบรรณทางธุรกิจ
ผู้เขียน : ไชย ณ พล
จำนวน  : ๒๔๐ หน้า
ขนาด : ๑๖ หน้ายกพิเศษ
สำนักพิมพ์ : B'DA ศูนย์วิจัยและพัฒนาธุรกิจ
พิมพ์ครั้งที่ : -
เดือนปีที่พิมพ์ : -

ในหนังสือมือสองเล่มนี้ ได้นำเสนอควบคู่กับจรรยาบรรณทางธุรกิจ
จากการสำรวจพบว่า องค์กรธุรกิจที่มีความมั่งคั่งและมีความมั่นคงทั้งหลาย
จะมีองค์ประกอบร่วมกันอยู่ประการหนึ่ง คือ มีจรรยาบรรณ ในการประกอบการ
ทั้งระมัดระวังอย่างพิถีพิถันที่จะรักษามาตรฐานไว้ให้สูงส่ง
ด้วย "จรรยาบรรณ" ทำให้ได้รับเครดิต ความเชื่อถือ อภิสิทธิ์ ภาพพจน์ที่ดี
อันนำมาซึ่งชื่อเสียง เงินทอง เกียรติยศ ความเจริญก้าวหน้า และความมั่นคง

การบริหารด้วยระบบศรัทธาและจรรยาบรรณทางธุรกิจ

ในขณะที่บริษัทที่ล้มเหลว หรือประกอบกิจการอย่างล้มลุกคลุกคลาน หรือตั้งมานานแต่ไม่โต
มักมีความบกพร่องทาง "จรรยาบรรณ" เร้นอยู่ในการประกอบการ ในผู้บริหาร
หรือบุคลากรของบริษัท ดังนั้น หนังสือเล่มนี้จึงได้ทำการศึกษาเชิงวิเคราะห์ว่า...
อะไรบ้างคือจรรยาบรรณที่เป็นองค์ประกอบสำคัญในการก้าวสู่และการรักษาไว้
ซึ่งความมั่งคั่งอย่างมั่นคง และจะพัฒนาจรรยาบรรณเหล่านั้น
ให้เป็นสมบัติขององค์กรและบุคลากรได้อย่างไร

จรรยาบรรณเป็นเรื่องที่ประณีตและมีอำนาจมหาศาล
เป็นสิ่งที่หลายคนรู้อยู่แก่ใจ แต่อาจทำไม่ได้หรือไม่ได้ทำ
เพราะขาดอำนาจในตนเอง และไม่มีกลยุทธ์ที่ดีพอที่จะพัฒนา
หนังสือเล่มนี้จะให้แนวทางในการพัฒนาจรรยาบรรณธุรกิจอย่างเป็นขั้นตอน
ตามหลักการและความเหมาะสม เพื่อความเจริญก้าวหน้าของระบบธุรกิจไทย
ตลอดจนความสำเร็จรุ่งโรจน์ของนักธุรกิจทุกคน
บนพื้นฐานอุดมคติที่ว่า "ถ้าจะมั่งคั่งทั้งที ต้องมั่งคั่งอย่างมั่นคง"

การจะพัฒนาองค์กรให้กอปรด้วยจรรยาบรรณได้นั้น 
ต้องมีองค์ประกอบจำเป็นหลายประการ เช่น
- การนำที่ถูกต้อง
- ปรัชญาองค์กรที่ถูกต้อง
- กลยุทธ์ที่เหมาะสม
- โครงสร้างที่เอื้ออำนวย
- ดุลยอำนาจที่พอดี
- ความพร้อมที่จะปรับเปลี่ยน
- ความร่วมรับผิดชอบของทุกฝ่าย
- การฝึกอบรมที่สม่ำเสมอ
- การปรับประยุกต์ใช้เป็นประจำ
- การประเมินผลที่รอบคอบ
- การพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง
ฯลฯ

แล้วองค์กรธุรกิจของท่านเล่า มีจรรยาบรรณอย่างไรบ้าง...

.

วันเสาร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2555

ชีวิตและความคิดของชูม้ากเก้อ

ชื่อของ ชูม้ากเก้อ ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของกระแสความคิดและกิจกรรมแนวหนึ่งไปแล้ว
ด้วยชื่อของเขาจะอยู่ในบรรดาบุคคลที่มีอิทธิพลทางความคิดมากที่สุด
โดยที่หนังสือของเขาจะอยู่บนหิ้งรวมหนังสือประเภทพลิกกระแสความคิดอ่านของโลกสมัยใหม่

หนังสือมือสอง : ชีวิตและความคิดของอี.เอฟ. ชูม้ากเก้อ
ผู้เขียน : บาบาร่า วู้ด
ผู้แปล : วีระ สมบูรณ์
จำนวน  : ๑๐๒ หน้า
ขนาด : ๑๖ หน้ายกธรรมดา
สำนักพิมพ์ : เทียนวรรณ
พิมพ์ครั้งที่ : ๑
เดือนปีที่พิมพ์ : มีนาคม ๒๕๓๑

นักอ่านชาวไทยย่อมรู้จักชื่อของชูม้ากเก้อผ่านงานชิ้นสำคัญๆ หลายชิ้น
นับแต่ เศรษฐศาสตร์ชาวพุทธ, แผนที่คนทุกข์, จิ๋วแต่แจ๋ว, งานกับคุณค่าของชีวิต
และ ความคิดทางจริยศาสตร์ของชูมากเกอร์ 

ชีวิตและความคิดของอี.เอฟ. ชูม้ากเก้อ
ข้อเขียนในหนังสือมือสองเล่มนี้ เดิมตีพิมพ์เป็นสองตอนลงใน ปาจารยสาร
ปีที่ ๑๒ ฉบับที่ ๔ และ ๕ กรกฎาคม - สิงหาคม และกันยายน - ตุลาคม ๒๕๒๘

E.F. Schumacher : His Life and Thought
หนังสือมือสองเล่มนี้ช่วยให้เห็นได้ว่า ความคิดทั้งหลายของชูม้ากเก้อนั้น
สัมพันธ์กับความเป็นไปในชีวิตของเขาอย่างแยกไม่ออก
วิวัฒนาการทางความคิดความอ่านของเขาในแต่ละช่วงสัมพันธ์กับประสบการณ์
สถานการณ์ และเงื่อนไขในชีวิตของเขาอย่างใกล้ชิด
ในหลายกรณี ยังสะท้อนภาพสังคมตลอดจนแนวคิดร่วมสมัยในช่วงนั้นๆ ได้เป็นอย่างดี

บาบาร่า วู้ด ผู้แต่งชีวประวัติของชูม้ากเก้อ ผู้เป็นบิดา
ชูม้ากเก้อได้กล่าวไว้ว่า...
"ถ้าคุณมองมันในแง่นี้ คุณจะพบว่า หากเราทำให้คนเห็นว่าทางเลือกใหม่นั้น
เป็นสิ่งที่เป็นไปได้ ให้เห็นได้ในปัจจุบันว่า อนาคตที่ดีกว่านั้นเป็นเรื่องที่ไม่เหนือบ่ากว่าแรง
ไม่ว่าจะเป็นในระดับใดก็ตาม...เพียงเท่านี้ ก็มีอะไรบางอย่างอยู่แล้ว
และถ้ามันเกิดได้เรื่องขึ้นมา คนก็จะคล้อยตาม...ถ้าคนเล็กคนน้อยสามารถทำสิ่งต่างๆ
ได้ด้วยตนเองอีกครั้ง พวกเขาก็จะหันมาปกป้องตัวเองอีกครั้ง
โดยสามารถปกป้องตัวพวกเขาเองจากคนใหญ่คนโตน่าแขยงพวกนั้นได้...
ดังนั้น ผมจึงไม่เคยรู้สึกท้อแท้ จริงอยู่ผมไม่สามารถเรียกลมที่จะพัดพาเรา
หรือเรือลำนี้ของเราไปสู่โลกที่ดีกว่านี้ได้ แต่อย่างน้อยที่สุด
ผมก็ชักใบเรือของผมรอไว้เพื่อว่า...พอลมพัดมา ผมก็จะได้ติดไปด้วย"
.

ทักทาย...

ก่อนอื่นต้องกล่าวคำว่า... สวัสดี

see-books ยินดีต้อนรับ
เป็นการเกริ่นทักทายแด่นักอ่าน หรือหนอนหนังสือทุกท่าน
บางสัปดาห์อาจจิบกาแฟแล้วพูดคุยผ่านตัวอักษรกันบ้าง
นัยว่าเพื่อสร้างสะพานมิตรภาพให้เชื่อมโยงหรือทอดผ่านกันได้
บล็อก see-books หนังสือในคอนโด ก็เป็นเพียงบล็อกเล็กๆ ที่ทำขึ้นด้วยใจ
โดยหวังว่าน่าจะพอมีประโยชน์ หรือแนะนำหนังสือมือสองให้เลือกสรร

ยิ่งยุคสมัยนี้ อินเทอร์เน็ตมีบทบาทต่อชีวิตประจำวันไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
ทำให้การอ่านหนังสือจากหน้ากระดาษอาจแปรเปลี่ยนไปเป็นการอ่านหน้าจอแทน
ยิ่งหลังๆ กระแส E-Book หรือหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เริ่มมีแนวโน้มที่จะเติบโตเรื่อยๆ
ทำให้สิ่งพิมพ์รูปเล่มอย่างหนังสือย่อมได้รับผลกระทบไปโดยมิอาจเลี่ยงได้
มองอีกด้านหนึ่งโมเดลการเผยแพร่สิ่งพิมพ์อิสระอย่างอีบุ๊กก็อาจมีด้านดีอยู่บ้าง
เพราะหากกระแส E-Book ได้รับความนิยม คึกคัก และได้รับการต้อนรับที่ดี
ก็สามารถลดต้นทุนการผลิตหนังสือ และทำให้หนังสือมีราคาถูกลงด้วย
อีกทั้งสร้างโอกาสให้นักเขียนไม่ต้องง้อสำนักพิมพ์เหมือนอดีต...

แต่ไม่ว่ากระแส E-Book จะรุกคืบหรือแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดจากสิ่งพิมพ์รูปเล่มไปได้บ้าง
กระนั้น นักอ่านบางส่วนก็ยังคงชอบการอ่านหนังสือแบบเป็นเล่มๆ อยู่แน่
ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นหมึกที่มีความเย้ายวน ตัวอักษรบนหน้ากระดาษที่เรียงรายรัญจวน
ทั้งอรรถรสในการเสพก็ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน ให้อารมณ์คนละรูปแบบกัน

อา...กาแฟหมดถ้วยพอดี
งั้นมาชมคลิปวิดีโอสรุปหนังสือที่แนะนำในบล็อกนี้กันเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศ



สุดท้าย... ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านบล็อกนี้ด้วย

.

วันพฤหัสบดีที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2555

ฝากไว้กับสายลม

ชีวิตของนักเขียนก็เหมือนพลุที่เขาจุดกันตามงานมหกรรมต่างๆ
มันโด่งสุดกำลังของมัน แล้วก็ตก
ใครๆ ก็ชื่นชมยินดี อยากเห็นทิศทางของมันยามสู่ฟ้า
มันอาจฉวัดเฉวียนไปตามวิถีกำลังและลม สูงบ้าง ต่ำบ้าง
แต่ที่สุดของทุกๆ ครั้งที่จุดมันขึ้นไป ผลของมันก็คือ
บทพิสูจน์แห่งความจริง เกิด แก่ เจ็บ ตาย
มันตกลงสู่ดินทุกๆ ครั้ง...

หนังสือมือสอง : ฝากไว้กับสายลม
ผู้เขียน : หลายคน
จำนวน  : ๑๕๘ หน้า
ขนาด : ๑๖ หน้ายกธรรมดา
สำนักพิมพ์ : วุฒิสาส์น
พิมพ์ครั้งที่ : -
เดือนปีที่พิมพ์ : เมษายน ๒๕๑๑

ฝากไว้กับสายลม
ฝากไว้กับสายลม เล่มนี้เป็นหนังสือเล่มแรกในในหนังสือชุด "ชุมทางเรื่องสั้น"
ซึ่งได้จัดพิมพ์ขึ้นเพื่อสนองความต้องการของนักอ่านส่วนใหญ่ในสมัยนั้น
โดยถือเอา "คุณภาพ" ของเรื่อง และ "ฝีมือ" ของผู้เขียนเป็นหลักเกณฑ์ใหญ่
ในการเฟ้นเรื่องที่จะนำมาลง และจะบังเกิดความรู้สึกอย่างลึกซึ้งยิ่งๆ ขึ้น

เนื้อในฝากไว้กับสายลม













หนังสือมือสองเล่มนี้ได้รวมเรื่องสั้นเปี่ยมคุณภาพและฝีมือไว้ ๙ เรื่อง
ฝากไว้กับสายลม โดย ประจวบ กาญจนลาภ
คนป่าของสนทะเล โดย พันธุ์ บางกอก
ไฟดำ โดย สิงหเทพ
ความหวังของลุงผัน โดย เวทย์ บูรณะ
ลูกรัก โดย ช. แสงเพ็ญ
เหตุเกิดเมื่อวีคเอ็นด์ โดย ชัยทัศน์ รัตนพันธุ์
ฐานะของสตรีตามที่เป็นจริง โดย "หลวงเมือง"
วิธีขึ้นอำเภอ โดย "หลวงเมือง"
นักเลงโรงพิมพ์ โดย ชัยทัศน์ รัตนพันธุ์

ทำงานดีมิใช่อยู่ที่ทำงานเก่งแต่อย่างเดียว
หากต้องรู้จักศิลปแห่งการพักผ่อนอีกด้วย
พักผ่อนดี พักผ่อนถูกวิธีย่อมช่วยให้มีพลังในการทำงานเพิ่มขึ้น
อ่านหนังสือดีก็เท่ากับมีศิลปแห่งการพักผ่อนที่ดี...

วันพุธที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2555

เดือนแห่งวันอาทิตย์

เรื่องราวของเด็กชายวัย ๑๐ ขวบ ที่เผชิญปัญหาพ่อแม่หย่าร้าง
อันเป็นเรื่องปัญหาสังคมที่นับวันจะรุนแรงขึ้นทุกที
พ่อหนูไม่อาจเข้าใจ ไม่อาจทำใจได้กันสถานการณ์ใหม่

หนังสือมือสอง : เดือนแห่งวันอาทิตย์
ผู้เขียน : โรส บลู
ผู้แปล : นิดดา หงษ์วิวัฒน์
จำนวน  : ๘๐ หน้า
ขนาด : ๑๒๐ x ๑๖๒ mm.
สำนักพิมพ์ : แสงแดด
พิมพ์ครั้งที่ : ๑
เดือนปีที่พิมพ์ : พฤศจิกายน ๒๕๒๔

เดือนแห่งวันอาทิตย์



เด็กน้อยโกรธเกลียดที่จะต้องจากบ้านชานเมือง
ระเห็ดระเหมาสู่มหานครนิวยอกร์ก
อันเป็นที่ที่มารดาต้องไปทำงาน
การโยกย้ายครั้งนี้ ประหนึ่งเป็นการโยกย้ายชีวิตทั้งชีวิต
สู่ที่แห่งใหม่ ซึ่งแปลกเสียจนราวกับว่ามันอยู่ในต่างแดน
บิดามาเยี่ยมเยียนเฉพาะวันอาทิตย์
โรงเรียนก็แสนประหลาด เด็กๆ ดูตลก สิ่งแวดล้อมรอบตัว
ไม่ว่าจะเป็นผู้คน ตึกรามบ้านช่อง ตลอดจนเสียงต่างๆ
ล้วนเป็นสิ่งที่เด็กชายไม่คุ้นเคยทั้งสิ้น
แล้วหนูน้อยวัยแค่เพียงเท่านี้จะทำอย่างไร
จะปรับตัวเข้ากับสถานการณ์บีบคั้นแบบนี้ได้หรือไม่?


โรส บลู ได้ขุดคุ้ยความอ่อนไหวและอ่อนหวานของอารมณ์เด็กน้อยออกมาอย่างหมดเปลือก
แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการใหม่ท่ามกลางสถานการณ์บีบคั้นอย่างรุนแรง
โดยเฉพาะความเป็นผู้ให้เป็นผู้มีจิตใจอ่อนโยนของผู้เขียน
ซึ่งเธอสะท้อนออกมาให้ประจักษ์ จากการปฏิบัติต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
โดยไม่เกี่ยงชาติ ภาษา ความหมายแห่งความรัก
อารมณ์ลึกล้ำที่ถูกกลั่นกรองจากกระแสธารแห่งชีวิต
จากข้อขัดแย้งทางสังคมและสิ่งแวดล้อมอันไม่อาจสัมผัสนี้ได้...

โรส บลู เขียนงานด้านนวนิยาย โดยมุ่งเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับเด็ก
ผลงานที่ตีพิมพ์รวมเป็นเล่มแล้ว ก็เช่น
A Quiet Place
Black Black
• How Many Blocks is the World?
• Bed-Stuy Beat
• I am Here

ปัจจุบัน หนังสือมือสองเล่มนี้อาจหายากเพราะพิมพ์แค่ ๓,๐๐๐ เล่ม

วันอังคารที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2555

เพลงยาวนิราศสุนทรภู่


เพลงยาวนั้น โบราณแบ่งออกได้ ๕ ประเภท คือ
เพลงยาวสังวาส เพลงยาวนิราศ เพลงยาวสุภาษิต เพลงยาวพงศาวดาร และเพลงยาวเสภา
สำหรับ เพลงยาวนิราศ แปลว่าเพลงยาวที่แต่งเมื่อจากบ้านจากคนรักไป
โดยพรรณนาถึงความรักและความอาลัยไปตามทาง
ถึงตำบลบ้านไหนก็พรรณนาถึงคนรัก เรียกว่า "สารสั่งทุกหย่อมหญ้า"

ผู้เขียน : เทพ สุนทรศารทูล
จำนวน  :  ๒๑๖ หน้า
ขนาด :  ๑๖ หน้ายกพิเศษ
สำนักพิมพ : พระนารายณ์
พิมพ์ครั้งที่  : ๑
เดือนปีที่พิมพ์  : ๒๕๓๕

ในที่นี้จะขอกล่าวเฉพาะเพลงยาวนิราศ ๕ เรื่อง
เพื่อจะยืนยันว่านิราศคำกลอนของ "สุนทรภู่" มีอยู่เพียง ๕ เรื่องเท่านี้
เรื่องอื่นหาใช่บทนิพนธ์ของท่านไม่เลย
ที่เอามาอ้างกันไว้มากมายนั้นล้วนแต่ของลูกศิษย์ท่านทั้งสิ้น

เพลงยาวนิราศสุนทรภู่


ในหนังสือมือสองเล่มนี้ สารบัญแบ่งเป็น...
ประวัติสุทรภู่ที่พบใหม่, นิราศเมืองแกลง แต่ง พ.ศ. ๒๓๕๐, 
นิราศพระบาท แต่ง พ.ศ. ๒๓๕๐, นิราศเมืองเพชร แต่ง พ.ศ. ๒๓๗๐, 
นิราศเมืองภูเขาทอง แต่ง พ.ศ. ๒๓๗๑, นิราศเมืองสุพรรณ แต่ง พ.ศ. ๒๓๘๔
และนิราศพระปธม แต่ง พ.ศ. ๒๓๘๕


ถึงกรุงศรีอยุธยาขึ้นห้าค่ำ     จึงเขียนคำจริงแจ้งแถลงไข
ให้ดวงเนตรเชษฐาด้วยอาลัย     จงเห็นใจเถิดที่จิตคิดคำนึง
ถึงเจ็บไข้ไม่ตายไม่คลายรัก     มีแต่ลักลอบนึกรำลึกถึง
ช่วยยิ้มแย้มแช่มชื่นอย่ามึนตึง     ให้เหือดหึงลงเสียมั่งจงฟังคำ


แล้วลัดออกนอกลำเนาภูเขาหลวง     ดูเด่นดวงเดือนสว่างกลางเวหา
โอ้เย็นฉ่ำน้ำค้างที่กลางนา   เสียงปักษาเพรียกพลอดบนยอดตาล
มาตามทางหว่างโตนดลิงโลดจิต    แต่พวกศิษย์แสนสุขสนุกสนาน
เห็นกระต่ายไล่โลดโดดทะยาน     เสียงลูกตาลกราดตึงตะลึงแล


เหมือนแม่ครัวขั้วแกงพะแนงผัด    สารพัดเพียญชนังเครื่องมังสา
อันพริกไทยใบผักชีเหมือนสีกา     ต้องโรยหน้าเสียสักหน่อยอร่อยใจ
จงทราบความตามจริงทุกสิ่งสิ้น     อย่านึกนินทาแถลงแหนงไฉน
นักเลงกลอนนอนเปล่าก็เศร้าใจ    จึงร่ำไรเรื่องร้างเล่นบ้างเอย



สมการเย็น

หนังสือมือสองที่รวมเรื่องสั้นแนววิทยาศาสตร์
ผลงานนักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์ชั้นยอดของยุโรปและอเมริกา

หนังสือมือสอง : สมการเย็น
ผู้เขียน : หลายนักเขียน
ผู้แปล : ชัยคุปต์
จำนวน  : ๑๘๔ หน้า
ขนาด : ๑๖ หน้ายกธรรมดา
สำนักพิมพ์ : ยาดอง
พิมพ์ครั้งที่ : ๑
เดือนปีที่พิมพ์ : พฤษภาคม ๒๕๓๔

ในโลกของวิทยาศาสตร์ สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ในสายตาของคนธรรมดาสามัญ
มักจะเป็นไปได้เสมอในโลกของวิทยาศาสตร์
คนเมื่อพันปีที่แล้วนั้นจะคาดคิดได้หรือไม่
ว่าคนในปัจจุบันสามารถเดินทางออกนอกโลกได้
และเช่นกันที่คนในปัจจุบันสุดจะคาดคิดได้ว่า
โลกและมนุษย์อีกพันปีข้างหน้าจะเป็นเช่นใด

สมการเย็น จินตนาการอันกว้างไกลไร้ขอบเขต
จากปลายปากกาของนักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์ชั้นเยี่ยม
...จากฝีมือแปลของนักแปลชั้นครู

สมการเย็น
- สมการเย็น The Cold Equations ของ ทอม กอดวิน นักเขียนอเมริกัน
- สงครามชั่วนิรันดร์ End Game ของ โจ ฮัลเดอแมน นักเขียนอเมริกัน
- หนูคำราม The Mouse That Roared ของ เอ็ดมันต์ คูเปอร์ นักเขียนชาวอังกฤษ
- สาม...สอง...หนึ่ง...แล้วก็!...ศูนย์ Now:Zero ของ เจ.จี. บอลลาร์ด นักเขียนชาวอังกฤษ
- ภาพอารมณ์ The Proper Study ของ ไอแซก อาซิมอฟ นักเขียนชาวรัสเซีย
- แล้ววันพรุ่งนี้ก็ไม่มี No Morning After ของ อาเธอร์ ซี.คลาร์ก นักเขียนชาวอังกฤษ

ในหมู่นักอ่านเมืองไทย หากพูดถึงนักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์แล้ว
คนส่วนมากอาจจะรู้จักไอแซก อาซิมอฟ  และอาเธอร์ ซี.คลาร์ก
ซึ่งทั้งสองท่านถือได้ว่าเป็นนักเขียนเข้าขั้นอภิมหานักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์ระดับโลก
โดยผลงานของคนทั้งสองได้รับการแปลเป็นภาษาไทยนับได้หลายสิบเรื่อง

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบนิยายวิทยาศาสตร์ก็ย่อมเชื่อว่า...
เรื่องราวในนิยายวิทยาศาสตร์หาใช่เรื่องเพ้อฝันไร้สารไม่
อาจถือได้ว่าเป็นเรื่องคาดการณ์ความเปลี่ยนแปลงของสังคมมนุษย์ในอนาคต
โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงในปัจจุบัน
ในขณะเดียวกัน นิยายวิทยาศาสตร์ก็อาจเป็นเรื่องประโลมโลกโดยสมบูรณ์

มาปล่อยจินตนาการให้โลดแล่นไปกับรวมเรื่องสั้นแนววิทยาศาสตร์กับหนังสือมือสองเล่มนี้กันเถิด...


วันจันทร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2555

มาร์โควัลโด


เรื่องชุดนี้เกิดขึ้นในเมืองอุตสาหกรรม ทางเหนือของอิตาลี
เรื่องแรกๆ เขียนขึ้นเมื่อทศวรรษ ๑๙๕๐ ซึ่งตอนนั้นเป็นอิตาลียุคสัจนิยมใหม่
เรื่องท้ายๆ ถือกำเนิดกลางทศวรรษ ๑๙๖๐ เมื่อมายาแห่งดอกเศรษฐกิจผลิบาน

หนังสือมือสอง : มาร์โควัลโด
ผู้เขียน : อิตาโล คาลวิโน
ผู้แปล : แทน เผ่าไท
จำนวน :  ๑๕๖ หน้า
ขนาด : ๑๖ หน้ายกธรรมดา
สำนักพิมพ์ : วลี
พิมพ์ครั้งที่  : ๑
เดือนปีที่พิมพ์ :  เมษายน ๒๕๓๐

MARCOVALDO or The seasons in the city

เป็นหนังสือมือสองเรื่องชุดที่ทั้งเศร้าสร้อยและขบขันเกี่ยวกับการต่อสู้ของชาวนาอิตาลี
เพื่อประสมประสานพฤติกรรมแบบชนบทเข้ากับวิถีชีวิตของเมือง
แต่ปัญหาของมาร์โควัลโด ก็คือ เขาเป็นคนช่างฝันและไม่ฉลาดนัก
ทุกหัวมุมถนน เมืองมักจะทำลายความุ่งมั่นของเขา
เป็นการมองวิถีชีวิตของเมืองแบบเหนือจริงผ่านสายตาของคนนอก...

มาร์โควัลโด
ภาษาของอิตาโล คาลวิโน สละสลวยมากนับเป็นบทร้อยแก้ว
ปี ๑๙๖๘ เขาปฏิเสธที่จะรับรางวัล Viareggio Prize อันมีชื่อเสียง
เนื่องจากขาดศรัทธาสถาบันที่ให้รางวัล
อย่างไรก็ตาม ปี ๑๙๗๓ คาลวิโนได้รับรางวัล Premio Fertriuelli
อันเป็นรางวัลวรรณกรรมของอิตาลี

สุชาติ สวัสดิ์ศรี เคยกะเก็งไว้ว่า...
อิตาโล คาลวิโน เป็นผู้หนึ่งซึ่งสมควรจะได้รับรางวัลโนเบล
และกล่าวว่า "ถ้าเขาได้รับ จะไม่มีคำครหาเลย" 
แต่เขาหมดสิทธิ์เสียแล้ว เพราะอิตาโล คาลวิโน เสียชีวิตแล้วเมื่อ ๑๙ กันยายน ๑๙๘๕
เหลือเพียงแต่ผลงานไว้ให้ผู้คนได้ชื่นชมเท่านั้น

***

"สำหรับคนที่ไม่ชอบบ้านและพบว่ามันไม่น่าอยู่นั้น
ที่พักผ่อนสบอารมณ์ในยามเย็นอันเหน็บหนาวก็คือ โรงหนัง
มาร์โควัลโดโปรดปรานภาพยนตร์สีเทคนิคคัลเลอร์จอกว้าง
ซึ่งสามารถโอบอ้อมขอบเขตสุดลูกหูลูกตา ทุ่งหญ้า ป่าดิบ ภูหิน
หมู่เกาะที่มีมาลัยครอบศีรษะของผู้อาศัย 
เขาจะดูหนังสองรอบและไม่เคยออกมาจนกว่าโรงจะปิด
ในความคิดของเขา มาร์โควัลโดยังคงอยู่ในภูมิประเทศและแสงสีเหล่านั้นทุกลมหายใจ
แต่การกลับบ้านในคืนฝนพรำ การรอรถรางสาย ๓๐ ที่ป้าย 
เมื่อสำนึกว่าชีวิตของเขาคงจะไม่พ้นจากรถราง ไฟจราจร 
ห้องใต้ดิน เตาแก๊ส โรงซักแห้ง โกดัง และห้องส่งของ
ทำให้ความงดงามของภาพยนตร์เลือนหายกลายเป็นความเศร้าสร้อยอันทึมเทาและแหว่งวิ่น"

.




โต๊ะก็คือโต๊ะ : เรื่องเล่าสำหรับเด็ก

ฟังชื่อเล่มอาจประมาณว่าเป็นวรรรกรรมเยาวชนที่คุ้นๆ อ่านๆ กันอยู่ในบ้านเรา
แต่เราเชื่อมั่นเหลือเกินว่า ๗ เรื่องสั้นในหนังสือเล่มนี้
Die Erde ist rund โลกกลม
Ein Tisch ist ein Tisch โต๊ะก็คือโต๊ะ
Amerika gibt es nicht อเมริกาไม่มีจริง
Der Erfinder นักประดิษฐ์
Der Mann mit dem Gedachatnis ชายนักจำ
Jodok laesst gruessen โยโดกฝากความคิดถึงมาด้วย
Der Mann, der nichts mehr wissen wollte ชายคนที่ไม่อยากจะรู้อะไรอีกต่อไป
ไม่ใช่วรรณกรรมเยาวชน ถึงแม้ว่าการเล่าเรื่องแบบนิทาน
และน้ำเสียงของการนำเสนออื่นๆ จะมีวิญญาณของความเป็นเด็กอยู่ก็ตาม

กระนั้นความเป็นเด็กในหนังสือชุดนี้ ว่ากันตามจริงแล้วก็คือเด็กๆ ในวัยชราภาพ
และก็เป็นวิญญาณของคนหนุ่มสาวที่กล้าคิด กล้าขบถ กล้าตั้งคำถาม
กล้าที่จะไม่เหมือนใครและรู้จักคิด รู้จักเชื่อที่จะไม่เชื่อในสิ่งที่เป็นอยู่...
โดยนักเขียนเลือกที่จะสะท้อนผ่านตัวละครในวัยชรา 
ขณะเดียวกันก็มีวิธีเล่าเหมือนกำลังเล่านิทานให้เด็กๆ ฟังก่อนนอน



***
แปลมาจากต้นฉบับภาษาเยอรมัน

หนังสือมือสอง : โต๊ะก็คือโต๊ะ (เรื่องเล่าสำหรับเด็ก)
ผู้เขียน : เพเตอร์ บิคเซล
ผู้แปล : ชลิต ดุรงค์พันธุ์
จำนวน  : ๘๘ หน้า
ขนาด : ๑๖ หน้ายกธรรมดา
สำนักพิมพ์ : แพรว
พิมพ์ครั้งที่ : ๒
เดือนปีที่พิมพ์ : กรกฎาคม ๒๕๔๓

โต๊ะก็คือโต๊ะ
หนังสือเล่มนี้บอกเล่าถึงเรื่องราวของคนเล็กๆ ในสังคมที่พบเห็นได้ทั่วๆ ไป
คนหนึ่งเป็นชายที่ไม่มีอะไรต้องทำอีกต่อไป ไม่มีลูก ไม่มีเมีย และไม่มีงานทำ
คนหนึ่งเป็นชายชราที่ไม่ค่อยพูดจาอะไร มีสีหน้าเหนื่อยหน่าย 
เหนื่อยหน่ายเกินกว่าจะยิ้มหรือบึ้งตึง แกอาศัยอยู่ในเมืองเล็กๆ เมืองหนึ่ง
คนหนึ่งเป็นนักประดิษฐ์และยังมีชีวิตอยู่ แต่ไม่มีใครรู้จักเขา
เพราะเขาอยู่ในยุคที่เรียกกันว่ายุคไร้นักประดิษฐ์ 
คนหนึ่งไม่มีอะไรทำ วันๆ นั่งอยู่ที่สถานีรถไฟ
นั่งมองรถไฟเข้าออกจากสถานีและท่องจำตารางเดินรถไฟได้ขึ้นใจ
ส่วนอีกคนก็พร่ำพูดถึงญาติมิตรคนหนึ่งที่ไม่มีตัวตนอยู่จริง...

.



วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2555

พ่อมดมหัศจรรย์แห่งออซ

พ่อมดมหัศจรรย์แห่งออซ ฉบับฉลองครบรอบ ๑๐๐ ปี
กลายเป็นนิทานอมตะของสหรัฐอเมริกาที่ยังคงมีผู้นิยมอ่านกันตลอดมาจนถึงยุคปัจจุบัน
โดยมีจำนวนเล่มที่พิมพ์จำหน่ายมากกว่า ๓๑ ล้านเล่ม มีผู้แปลเป็นภาษาต่างๆ ถึง ๕๘ ภาษา

หนังสือมือสอง : พ่อมดมหัศจรรย์แห่งออซ
ผู้เขียน : แอล.แฟรงก์ โบม
ผู้แปล : ชาญวิทย์ เกษตรศิริ
จำนวน :  ๓๐๔ หน้า
ขนาด : ๑๔๘ x ๑๘๕ mm.
สำนักพิมพ์ : เรือนปัญญา
พิมพ์ครั้งที่ : ๒
เดือนปีที่พิมพ์  : มิถุนายน ๒๕๔๔

The Wonderful Wizard of Oz หรือ พ่อมดมหัศจรรย์แห่งออซ 
เขียนขึ้นมาเพื่อความบันเทิงของเด็กในยุคปัจจุบันแต่อย่างเดียว
เนื้อเรื่องนี้ประสงค์ให้เป็นเทพนิยายสมัยใหม่ที่ยังรักษาไว้ซึ่งความมหัศจรรย์และความสนุก
ส่วนเรื่องราวที่เจ็บปวดหัวใจและฝันร้ายนั้นก็ต้องเอาออกไป...

พ่อมดมหัศจรรย์แห่งออซ

หนูน้อย โดโรธี และสุนัขตัวน้อยๆ ของเธอ โตโต้
ถูกลมหอบไปจากบ้านที่แคนซัส ไปตกอยู่ท่ามกลางดินแดนประหลาดแห่งออซ
โดโรธีอยากกลับบ้านที่แคนซัสมาก
ดังนั้นเธอจึงเดินทางไปเมืองมรกตเพื่อไปหาออซ พ่อมดผู้ยิ่งใหญ่ให้ช่วยส่งกลับบ้าน
ระหว่างทางนั้น เธอพบสหายร่วมเดินทางด้วย
สหายหนึ่งเป็น หุ่นไล่กา 
หุ่นไล่กานั้นคิดว่าตัวเองโง่ ก็เลยอยากไปหาออซให้ใส่มันสมองให้
สหายที่สองเป็น ชายตัดไม้ ที่สร้างขึ้นด้วยดีบุก
ชายตัดไม้ดีบุกคิดว่าตนไม่มีหัวใจ  ก็เลยอยากไปหาออซให้ใส่หัวใจให้
สหายที่สามเป็น สิงโต
สิงโตคิดว่าตัวเองขี้ขลาด  ก็เลยอยากไปหาออซให้ใส่ความกล้าหาญให้

ทั้งสี่สหายจึงออกเดินทางไปด้วยกัน ผจญภัยไปตลอดทาง
เห็นสิ่งประหลาดมหัศจรรย์มากมาย ครั้นไปถึงเมืองมรกต
ก็พบว่าออซพ่อมดมหัศจรรย์นั้นเป็นคนจอมปลอม
หาได้มีความสามารถส่งโดโรธีกลับบ้านที่แคนซัสได้ไม่
หรือจะใส่มันสมองให้หุ่นไล่กาก็ไม่ได้ หรือจะใส่หัวใจให้ชายตัดไม้ดีบุกก็ไม่ได้
แล้วจะใส่ความกล้าหาญให้สิงโตขี้ขลาดก็ไม่ได้อีกเช่นกัน

ทั้งสี่สหายต้องผจญภัยต่อไปอีก
และในที่สุดก็พบว่าสิ่งที่ตนต่างปรารถนานั้นมีอยู่ในตัวของตัวแล้ว

เด็กสมัยใหม่ไม่ควรพลาดหนังสือมือสองเล่มนี้เด็ดขาด
ด้วยนิทานพื้นบ้าน ตำนาน เรื่องปรัมปรา และเทพนิยาย ติดตามวัยเด็กมาตลอดยุคสมัย
เพราะผู้เยาว์ที่ร่าเริงมีเชาวน์ดีทั้งหลายทุกคนรักเรื่องประหลาดมหัศจรรย์
ที่แสดงออกมาตรงข้ามกับความเป็นจริง

.

วันเสาร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2555

สายน้ำตะวันออก


สัญจนสารคดีจากคอลัมน์ สายน้ำและความทรงจำ
สายน้ำไม่เปลี่ยนทาง แล้วอะไรที่เปลี่ยนไป
นักเดินทางอาจตั้งคำถามและแสวงหาคำตอบด้วยสายตา
ที่ตั้งข้อสังเกตต่อร่องน้ำ ตลิ่งสูง แผ่นดินกว้าง และอารยธรรมของผู้คน
ท้ายที่สุดแล้วอาจได้คำตอบมาบ้างว่า ยังมีอะไรอีกมากมายที่ต้องเรียนรู้
อย่างน้อยก็เป็นการเรียนรู้หัวใจตนเอง
หรืออย่างน้อย แม่น้ำแต่ละสายก็ไม่เหมือนกันในแง่รายละเอียด


หนังสือมือสอง : สายน้ำตะวันออก
ผู้เขียน : ธีรภาพ โลหิตกุล
จำนวน  : ๑๗๔ หน้า
ขนาด : ๑๖ หน้ายกพิเศษ
สำนักพิมพ์ : แพรว
พิมพ์ครั้งที่ : ๒
เดือนปีที่พิมพ์ : ๒๕๓๙

เนื้อในของหนังสือมือสองเล่มนี้มีภาพสี่สีสวยงามพิมพ์แทรกประกอบ
โดยสารบัญได้แบ่งเป็น ๕ ภาค คือ
ภาคพม่า ภาคเวียดนาม ภาคสิบสองปันนา ภาคลาว และ ภาคความคิดคำนึง

สายน้ำตะวันออก
"ไม่มีคอนโดรีสอร์ทผุดขึ้นมาประชันกับยอดเจดีย์
แม้ว่าที่นี่จะอยู่ในเขตส่งเสริมการท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของพม่า
ไม่มีเสาไฟฟ้าหรือบ้านเรือนรกรุงรังโผล่ขึ้นมา
แม้ว่าที่นี่จะเป็นหัวเมืองใหญ่ในภาคเหนือ ซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่น"
อิระวดีเมื่อปลายฝน •

"คนไซ่ง่อน ฮานอย ดานัง กวางตรี 
ออกจะหมั่นไส้ชาวเว้อยู่ไม่น้อย ถึงกับตั้งฉายาว่า
พวกเว้นั้น...ชายเหลี่ยมจัด ผู้หญิงมารยามาก"
งามอำพรางอย่างเว้ (๑)

"คนบางคนสู้อุตส่าห์เดินทางไปด้วยความกระหาย
ใคร่จะได้ศึกษาเรียนรู้วิถีวัฒนธรรมดั้งเดิมของเครือญาติไทเก่าแก่กลุ่มหนึ่ง
แต่บางคนก็ทุรนทุรายเดินทางไปอย่างกระเหี้ยนกระหือรือที่จะฉกฉวยโอกาส"
ลำน้ำล่าที่ยังคาใจ

"การที่คนไทยนิยมซื้อผ้าทอเป็นของที่ระลึกนั้น 'สร้างสรรค์' 
กว่าการข้ามไปลาวเพียงเพื่อหาซื้อบุหรี่นอกราคาถูกกลับมาสูบกัน"
ฮักแพง...ฮักหลายๆ (อีกที)

.


สาวอ้วนชวนผอม

เบื่อมั้ยล่ะ? ถ้ามีคนมาเรียกคุณว่า นังผีเสื้อสมุทร ยายช้างน้ำ ปลาพะยูนเกยตื้น
และอีกสารพัดสารพันคำเปรียบเปรยที่แสนจะเสียดแทงกระดองใจน้อยๆ
ถึงเวลาปฏิวัติหุ่นบั้นท้ายดินระเบิด และถอดห่วงยางออกจากเอวเสียที

หนังสือมือสอง : สาวอ้วนชวนผอม
ผู้เขียน : เอ.เจ. โรเชสเตอร์
ผู้แปล : ชมนารถ
จำนวน  : ๓๑๖ หน้า
ขนาด : ๑๖ หน้ายกพิเศษ
สำนักพิมพ์ : เพิร์ล
พิมพ์ครั้งที่ : ๑
เดือนปีที่พิมพ์ : ตุลาคม ๒๕๔๗

หนังสือมือสองเรื่อง สาวอ้วนชวนผอม จะนำความอ้วนที่เป็นเรื่องเครียดๆ
และแสนเจ็บปวดมาเปลี่ยนเป็นเสียงหัวเราะ ตั้งแต่หน้าแรกยันหน้าสุดท้าย
เอ.เจ. โรเชสเตอร์ จะทำให้คุณรู้ว่า...ไม่ว่าคุณจะอ้วนสักแค่ไหนก็ไม่ใช่ปัญหา
น้ำหนักเกิน 100 กิโลน่ะหรือ! อย่าเพิ่งท้อแท้ใจหรือรีบยกธงขาวจำนนละ
เพราะจาก 109 กิโล เหลือ 69 กิโล เอ.เจ.ก็เคยทำมาแล้ว
ด้วยวิธีง่ายๆ แต่ได้ผลเป็นเลิศในหนังสือเล่มนี้
ที่สำคัญคือไม่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาโยโย่ หรือกลับมาอ้วนมากกว่าเดิม
จนกลายเป็นซูเปอร์ช้างน้ำ ที่มักจะเกิดจากการลดความอ้วนอีกด้วย

สาวอ้วนชวนผอม
Confessions of a Reformed Dieter โดย A.J. Rochester

เอาละนะ... ฉันจะเริ่มเล่าให้คุณฟังว่าในช่วงสองสามวันมานี้ ฉันกินอะไรไปบ้าง
เมื่อวานตอนเช้า ฉันกินแพนเค้กกับน้ำเชื่อม
ตอนเที่ยง กินขนมปังขาวกับยาร์บสเบร์กชีสและมันฝรั่งทอดกรอบยี่ห้อเค็ทเทิลส์
แซนต์วิชเนยถั่วที่ลูกชายของฉันกินเหลือ ช็อกโกแลตคาราเมลโลโคล่าส์สองอัน
แล้วก็แคร็กเกอร์รสสาหร่ายกับชีส
ส่วนตอนเย็น ก็เป็นพิซซ่ารสบาร์บีคิวมีทเลิฟเวอร์ (เพิ่มไส้กรอกคาบานอสซิ)
ปีกไก่ทอดหกชิ้น ขนมปังกระเทียม และเป๊บซี่หนึ่งขวด
ตบท้ายด้วยไอศกรีมราดช็อกโกแลตและสตรอว์เบอร์รี่เป็นขนมหวาน
วันนี้ พอตื่นนอนขึ้นมา ฉันก็บอกกับตัวเองว่า ฉันต้องกินดีๆ
เริ่มด้วยเบคอนกับมัฟฟินเป็นอาหารเช้า และในขณะที่กำลังเขียนอยู่นี้
ฉันก็เลียนิ้วที่เลอะน้ำมันจากไก่ทอดเคเอฟซีที่กินตอนมื้อเที่ยงไปด้วย
ฉันรอให้ถึงมื้อเย็นไม่ไหวแล้วละ...ฉันน่าจะไปหาของว่างกินซะหน่อยแล้ว

อืมมม...แทบไม่มีอะไรเทียบได้กับมันฝรั่งรสส้มโรยเกลือสองแผ่น
แล้วประกบเข้ากับผลไม้ฝานเป็นชิ้นๆ และช็อกโกแลตถั่วเลยจริงๆ

สาวอ้วนชวนผอม เรื่องราวจากชีวิตจริงไม่อิงนิยาย
ที่ทั้งสุข เศร้า เคล้าน้ำตา และฮากระจาย--

.


วันศุกร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2555

กำนัลแห่งคริสต์มาส

ชาร์ลส์ ดิคเกนส์ เป็นนักประพันธ์นามกระเดื่องที่สุด
และมีผู้รักมากที่สุดในวงวรรณกรรมของอังกฤษ

หนังสือมือสอง : กำนัลแห่งคริสต์มาส
ผู้เขียน : ชาร์ลส์ ดิคเกนส์
ผู้แปล : เขมรัฐ
จำนวน  : ๑๒๐ หน้า
ขนาด : ๑๖ หน้ายกธรรมดา
สำนักพิมพ์ : เรจีนา
พิมพ์ครั้งที่ : ๑
เดือนปีที่พิมพ์ : พฤศจิกายน ๒๕๓๐

ประมาณหนึ่งร้อยกว่าปีมาแล้ว และเมื่อใกล้เวลาคริสต์มาส
มีหนังสือเล่มเล็กๆ เล่มหนึ่งได้พิมพ์จำหน่ายในกรุงลอนดอน
หนังสือซึ่งเรื่องภายในเล่มถูกกำหนดให้กลายเป็นอมตะ
มีคนอยู่เป็นอันมากเรียกหนังสือเล่มนี้ว่า "หนังสือเล่มเล็กๆ อันยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก"
เมื่อตอนพิมพ์ออกมาเป็นครั้งแรก
มิตรสหายขณะที่ตางพบปะกันตามถนนสแตร็นด์ หรือถนนพัลล์ มัลล์ ต่างถามกัน
"คุณอ่านมันหรือเปล่า" และคำตอบมีทำนองเดียวกัน
"พระเจ้าประทานพรให้เขา, ฉันอ่านแล้ว"

หนังสือนามกระเดื่องโลกเล่มนี้คือ คริสต์มาส แครอล (A Christmas Carol)
แล้ว โรเบิร์ต เซเมคคิส ผู้กำกับรางวัลออสการ์จาก The Forrest Gump ในปี 1994
ก็ได้นำบทประพันธ์คลาสสิกนี้มาดัดแปลงและกำกับให้กับวอลท์ดิสนีย์ พิคเจอร์
ซึ่งใช้วิธีการถ่ายแบบ 'Performance capture/Disney digital 3-D' แอนิเมชั่น
นับว่าเป็นการพัฒนาระบบเทคนิคต่อเนื่องมาจากภาพยนตร์เรื่อง Polar Express ในปี 2004


กำนัลแห่งคริสต์มาส

เหตุเกิดขึ้นในคืนหนึ่ง...
คืนซึ่งสกูจได้รับของกำนัลชิ้นหนึ่งซึ่งพลิกวิถีชีวิตของเขาให้แปรเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
กำนัลชิ้นที่สกูจได้รับในคืนคริสต์มาสอีฟคืออะไร? และใครกันเป็นผู้ที่มอบของชิ้นนี้แก่เขา
ตาเฒ่าผู้ละโมบ เย็นชา หวงก้าง ไม่สุงสิงกับใคร และไม่มีใครอยากคบหาด้วย?
ซานตาครอสรึ? ไม่...ไม่ใช่แน่นอน ก็พวกเขาไม่ได้แต่งชุดแดง ติดหนวดเคราสีขาว
สะพายกระสอบของขวัญมากับรถลากเลื่อนนี่นา
แต่...พวกเขามากับความมัวซัว วังเวง เย็นยะเยียบ...

กำนัลแห่งคริสต์มาส เป็นเรื่องที่ให้ทั้งความบันเทิง ชวนให้ติดตาม
ขณะเดียวกันก็ให้อุทาหรณ์สอนใจว่า...
คนเรามิได้มีชีวิตอยู่เพียงเพื่อตัวเอง แต่ยังต้องอิงกับสังคมและคนรอบข้างด้วย

.

วันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2555

รอยยิ้มแห่งฤดูกาล


บทกวีที่ฉันเขียนไว้
พอลมทุ่งกรรโชกมา
ก็พัดพามันล่องลอยไป

หนังสือมือสอง : รอยยิ้มแห่งฤดูกาล
ผู้เขียน : พจนา จันทรสันติ
จำนวน  :  ๑๐๔ หน้า
ขนาด : ๑๖ หน้ายกธรรมดา
สำนักพิมพ์ : ประพันธ์สาส์น
พิมพ์ครั้งที่ : ๑
เดือนปีที่พิมพ์ : พฤศจิกายน ๒๕๓๓

รอยยิ้มแห่งฤดูกาล

โลกปราศจากใบหน้า โลกจึงแย้มยิ้มผ่านฤดูกาล
ฤดูกาลปราศจากรอยแย้มยิ้มของตัวเอง ฤดูกาลจึงยิ้มและหัวร่อผ่านต้นไม้ใบหญ้า
ผ่านตัวหนอนแมลง ผ่านเมฆหมอกและแสงแดด ผ่านลม ฝน
ผ่านชีวิตพืช ชีวิตสัตว์ และชีวิตมนุษย์
รอยยิ้มอันนี้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับจักรวาล

เมื่อจักรวาลคลี่คลายขยายตัวออกเป็นรอยยิ้มอันลี้ลับสุดหยั่งถึง
ใครเลยอาจบอกว่ามันเป็นเพียงแง่มุมของความเบิกบาน
ด้วยว่ารอยยิ้มอันยิ่งใหญ่นั้นเหนือธรรมดาสามัญ เฉกเช่นความตาย
ซึ่งใบหน้าของมันมิใช่รู้จักเพียงตึงเครียด ความตายก็เช่นกันมีรอยแย้มยิ้ม
รอยยิ้มอันยิ่งใหญ่ของจักรวาลครอบคลุมบรรดารอยยิ้มเล็กๆ น้อยๆ ทั้งหลายไว้ภายใน
ทั้งชีวิตและความตาย เกิดและแตกดับ หัวเราะและร้องไห้ สุขหรือทุกข์
มันคือหนึ่งเดียว มันคือสรรพสิ่ง มันคือผู้สร้าง และมันคือผู้ทำลาย
ภายใต้รหัสนัยอันลี้ลับ ซึ่งสำแดงออกผ่านชีวิตเล็กๆ ในน้ำ บนแผ่นดิน และในฟากฟ้า
ผ่านมวลธาตุนานา คือความเป็นไปในวัฏฏสังสาร คือสุข-ทุกข์นั่นเอง
รอยยิ้มนี้คือพรหม คือพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งอยู่ ณ สุดทางของความเป็นไป...

หนังสือมือสองเล่มเล็กๆ นี้เป็นบทบันทึกเชิงกลอนเปล่าที่แฝงแง่คิดทางปรัชญาอันลึกซึ้งเพราะพริ้ว
น่าเก็บสะสมในชั้นหนังสือ เป็นรอยยิ้มท่ามกลางหนังสือมากมาย
หรือหากชื่นชอบงานเขียนของพจนา จันทรสันติ ก็มีหนังสือมือสองอีกเล่มคือ มุ่งสู่ความขาวของหิมะ

.



วันพุธที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2555

ขนำน้อยกลางทุ่งนา


หนังสือที่ได้รับรางวัลดีเด่น ประจำปี ๒๕๒๔ (หนังสือเด็กก่อนวัยรุ่น ประเภทบันเทิงคดี)
จากคณะกรรมการพัฒนาหนังสือแห่งชาติ และคณะกรรมการส่งเสริมและประสานงานเยาวชนแห่งชาติ
ขนำน้อยกลางทุ่งนา” เป็นนวนิยายที่แสดงภาพชีวิตของเด็กๆ ในชนบทภาคใต้
 โดยเฉพาะในเขตจังหวัดนครศรีธรรมราชได้อย่างชัดเจน
มีกลวิธีในการแต่งเรื่องที่งดงามด้วยวรรณศิลป์ มีฉากและตัวละครที่สมจริง
ซึ่งผู้อ่านจะได้รับคุณค่าทั้งทางด้านอารมณ์ความรู้สึกต่างๆ จากตัวละคร
ทั้งยังได้สอดแทรกเรื่องราวให้เด็กๆ ได้รู้ถึงคุณธรรมด้านต่างๆ มากมายหลายด้าน
ทำให้พวกเขาเข้าใจชีวิตในแง่ที่ควรจะเข้าใจ และทำให้เห็นถึงความสำคัญของการศึกษา

แม่วางร่มลงบนขั้นกระได เหงื่อเม็ดโตหยดลงมาจากดั้งจมูก
จนต้องเอาผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับเบาๆ ก่อนพลิกขันอะลูมิเนียมที่คว่ำอยู่บนฝาโอ่ง
เปิดฝาโอ่งใหญ่วักน้ำฝนที่รองรับเอาไว้ตั้งแต่เดือนหก ยกขึ้นดื่มอย่างกระหาย
น้ำฝนเดือนหกใสและหอมกลิ่นโอ่งดินเผา วักน้ำมาดื่มทีไรก็ดื่มได้มากทีนั้น
แม่จึงทำฝาไม้ปิดอยางมิดชิด
     "แม่ซื้อหนมมาฝากลูก..." แม่กล่าวขึ้นหลังดื่มน้ำ "หยิบเอาซี วางอยู่ข้างร่มนั้น..."
     เด่นลอบพิจารณารอยยิ้มของแม่ขณะนี้ รู้สึกรักแม่มาก แต่ตอนเย็นนี้ซิ
ใบหน้าของแม่จะเปลี่ยนไปแค่ไหน เขาเองยังคาดเดาไม่ถูกเลย
     "จะไปเล่นที่ไหนก็ไปซะ..."
(บางส่วนจากหนังสือมือสองปกแข็งเล่มนี้)


ขนำน้อยกลางทุ่งนา


ผู้เขียน : จำลอง ฝั่งชลจิตร
จำนวน : ๑๘๘ หน้า
ขนาด : ๑๖ หน้ายกธรรมดา
สำนักพิมพ์ : ต้นหมาก
พิมพ์ครั้งที่ : ๑ (ปกแข็ง)
เดือนปีที่พิมพ์ : มิถุนายน ๒๕๒๕

***


"ข้าพเจ้าเขียน ขนำน้อยกลางทุ่งนา ให้เด็กกับผู้ใหญ่อ่านกันและกัน
โดยเฉพาะเด็กๆ ที่เริ่มเป็นผู้ใหญ่ ผู้เริ่มต้นเดินก้าวแรกสู่ความเป็นผู้ใหญ่
ข้าพเจ้าเพียงแต่หวังไว้ว่า พวกเขาจะได้ไม่ต้องรู้สึกอย่างข้าพเจ้า เมื่อพวกเราเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว..."

บางตอนจากคำนำ โดย จำลอง ฝั่งชลจิตร

.



วันอังคารที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2555

อลิซผจญภัยในแดนมหัศจรรย์


แล้วเมื่อราวต้นปี พ.ศ. ๒๕๕๓ 
ภาพยนตร์เรื่อง Alice in Wonderland อลิซผจญแดนมหัศจรรย์ ก็ได้เข้ามาฉายในเมืองไทย
โดยวอล์ท ดิสนีย์ พิคเจอร์ส และ ทิม เบอร์ตัน สุดยอดผู้กำกับที่มีจินตนาการแสนบรรเจิดจรัส  
ซึ่งนำทีมนักแสดงโดย จอห์นนี่ เดปป์ และ มีอา วาสิคอฟสกา 
ภาพยนตร์แฟนตาซีสามมิติสุดอลังการกับการผจญภัยในดินแดนลี้ลับเหนือคำบรรยาย
ที่ดัดแปลงจากหนังสือนิยายคลาสสิกชั้นเยี่ยมของ ลูอิส คาร์รอลล์
“อลิซผจญภัยในแดนมหัศจรรย์” (ประพันธ์เมื่อปี ๑๘๖๕) และ “อลิซผจญภัยโลกในกระจก” (ประพันธ์เมื่อปี ๑๘๗๑) 


ส่วนหนังสือมือสองอย่าง Alice's Adventures in Wonderland
นิทานเด็กที่มีชื่อเสียงของอังกฤษ ซึ่งพิมพ์เมื่อปี ๑๙๖๕
ก็ได้รับความนิยมแพร่หลายมากที่สุดเรื่องหนึ่งในประเทศตะวันตก

นิทาน คือโลกส่วนตัวใบเล็กของเด็กๆ ที่ทำให้เด็กได้ใช้จินตนาการ
ใช้ความคิดอย่างสร้างสรรค์ เพื่อเรียนรู้สิ่งต่างๆ รอบๆ ตัว
ก่อนการก้าวย่าง...เข้าไปทำความรู้จักโลกใบโตๆ ในความเป็นจริง
จึงไม่แปลกที่นิทานบางเรื่องจะมีอายุกว่าร้อยปี
ซึ่ง อลิซผจญภัยในแดนมหัศจรรย์ ก็ได้รับการยกย่องว่าเป็นวรรณกรรมคลาสสิกเล่มหนึ่งของโลก
สัมผัสโลกแห่งเทพนิยาย พบกับหนูน้อยอลิซกับเหล่าพันธุ์สัตว์นานาชนิดที่มีความคิดไม่ผิดจากคน
ในหนังสือมือสองเล่มนี้โดยพลัน...

อลิซผจญภัยในแดนมหัศจรรย์


ผู้เขียน : ลูอิส คาร์รอลล์
ผู้แปล : ระวี ภาวิไล
จำนวน  : ๑๔๔ หน้า
ขนาด : ๑๖ หน้ายกธรรมดา
สำนักพิมพ์ : ดอกหญ้า
พิมพ์ครั้งที่ : ๔
เดือนปีที่พิมพ์ : มิถุนายน ๒๕๓๖

***

- อลิซผจญภัยในแดนมหัศจรรย์ -

ในความรู้สึกของเด็กๆ 
นี่คือเรื่องราวสนุกสนานชวนตื่นเต้น

ในความคิดเห็นของผู้ใหญ่
คือเรื่องที่เขียนขึ้นอย่างง่ายๆ น่าอ่าน เข้าถึงจิตใจของเด็กๆ ได้ดี

ในสายตานักวิจารณ์
เป็นเรื่องที่ล้อเลียนการศึกษา การเมือง และชีวิตชาวอังกฤษสมัยพระราชิินีวิกตอเรีย

และในความเป็นเทพนิยายคลาสสิก
อลิซคือเทพธิดาน้อยๆ ในแดนมหัศจรรย์
ที่ทำให้นักคณิตศาสตร์คนหนึ่ง กลายมาเป็นนักประพันธ์เอกของโลก...

.

เรียงความ


ศิลปินเขียนรูปใช้สีเป็นถนนสำหรับการเดินทาง 
คนตาบอดจินตนาการถึงสีที่อยากจะเห็น
ดอกไม้ได้สีมาจากอากาศ ดิน และน้ำ 
หนุ่มสาวที่อยู่ในห้วงความรัก เขาบอกว่าเห็นโลกเป็นสีชมพู 
แต่โลกวันนี้กำลังมืดมิดเป็นสีดำเพราะหัวใจของผู้คนแล้งไร้น้ำใจ


ผมเห็นว่าเขาแฝงอุดมคติไว้ในประโยคที่แสร้งเสียดสี
เขาเร้นจรรยาบรรณไว้ในวลีที่ทำทีว่าเย้ยหยัน... (อาจินต์ ปัญจพรรค์)

"ญามิลา" ผมชอบนามปากกานี้ พอๆ กับสิ่งที่เขาเขียน เพราะเขาเขียนขึ้นจากสิ่งที่เขารู้สึกและสัมผัส
หรือเป็นการผสมผสานขึ้นระหว่างความเป็นจริงกับจินตนาการ จากบทเพลง บทกวี... (ชีวี ชีวา)

วิธีหยิบเอา 'ความ' มา 'เรียง' ของญามิลา มีจังหวะและน้ำเสียงเฉพาะตัว 
คนอ่านหนังสือจะพบความนิ่งเนียนและลื่นไหลในเรียงความของเขา... (อธิคม คุณาวุฒิ)

เรียงความ

ผู้เขียน : ญามิลา (วิรัตน์ โตอารีย์มิตร)
จำนวน :  ๒๐๖ หน้า
ขนาด : ๑๖ หน้ายกธรรมดา
สำนักพิมพ์ : ไม้ไต่เขียน
พิมพ์ครั้งที่ : ๑
เดือนปีที่พิมพ์ : สิงหาคม ๒๕๔๔



เมื่อมีโลกครั้งแรกๆ สีสันเป็นเช่นนี้เลยหรือเปล่านะ
และสมมุติว่าโลกมีแต่สีขาวดำ ใครบางคนถามว่าใจมนุษย์จะงดงามหรือตกต่ำลง
และเลือดจะไม่เป็นสีแดงอีกแล้วใช่ไหม

งานศพ-สีดำ งานแต่งงาน-สีขาว ธรรมชาติ-สีเขียว
วันอาทิตย์-สีแดง สงคราม-สีเลือด น้ำตาสีอะไร?
คนเราร้องไห้เสมอในยามทุกข์โศก และคนเศร้ามักมองไม่เห็นว่าสีใดๆ สวย

โลกมีการแสดงใหญ่เล็กมากมาย สีเป็นการแสดงอย่างหนึ่งของโลก
บางสีทำให้คนเรารัญจวน บางสีอิ่มไปด้วยความเศร้า
อีกบางสีผสมกันไปมาชวนให้รู้สึกว่าบ้าคลั่ง
สีคงอยู่เฉยๆ อารมณ์ต่างหากที่เดินทางเข้าไปหา...

ทุกอย่างเปลี่ยนสีเมื่อถึงเวลาอันสมควร
เส้นผมของคนเรามีสีขาวรออยู่ แสงแดดในแต่ละฤดูมีสีที่ไม่เท่ากัน
ความฝันของคนชรามีสีจืดชืดกว่าคนหนุ่มสาว
รุ้งกินน้ำอิ่มแล้วจึงมีสีทั้งเจ็ดอยู่ในตัว
คนในกรุงเทพฯ ชอบสีเขียวของไฟจราจรมากกว่าสีแดง
คนต่างจังหวัดชอบสีคล้ำๆ ของเมฆ
เพราะไม่นานฝนอาจตกลงมาเพื่อพลิกแผ่นดินให้ชุ่มฉ่ำ...

(เนื้อเรื่องบางตอนจากหนังสือมือสองเล่มนี้)

.