วันเสาร์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2556

เมื่อสวรรค์ให้รางวัลผม

วรรณกรรมอารมณ์สดใส เพื่อการมองโลกอย่างรื่นรมย์
นิยายรางวัลซังเคยอดนิยมของวัยรุ่นญี่ปุ่น

Colorful หรือ เมื่อสวรรค์ให้รางวัลผม เล่มนี้ เป็นผลงานที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของ โมริ เอโตะ
เนื่องจากไม่เพียงได้รับรางวัล ยังทำสถิติเป็นหนังสือขายดีอันดับสองของญี่ปุ่นในปี 1998
เพราะความอบอุ่นและอารมณ์ขันของเรื่องได้ชนะใจผู้อ่านหลากหลายวัย 
โดยเฉพาะวัยเรียนกับวัยรุ่น อีกทั้งเรื่องนี้ยังถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ 
ซึ่งไม่แน่แปลกใจเลยหากทราบว่า...
โมริ เอโตะ นั้นเป็นนักเขียนวรรณกรรมเยาวชนชื่อดัง 
และเป็นเจ้าของรางวัลวรรณกรรมเยาวชนมากมาย
อาทิ รางวัลนักเขียนหน้าใหม่สำนักพิมพ์โคดันนะ รางวัลโนมะ รางวัลซังเค และรางวัลโรโบโนะอิชิ

เมื่อสวรรค์ให้รางวัลผม (Colorful)
หนังสือมือสอง : เมื่อสวรรค์ให้รางวัลผม
ผู้เขียน : โมริ เอโตะ
ผู้แปล : วิยะดา คาวางุจิ
จำนวน : ๑๘๔ หน้า
ขนาด : ๑๖ หน้ายกพิเศษ
สำนักพิมพ์ : JBOOK
พิมพ์ครั้งที่ : ๗
เดือนปีที่พิมพ์ : กันยายน ๒๕๔๘


ดวงวิญญาณของผมกำลังล่องลอยอยู่บนฟ้า จู่ๆ เทวดาก็ประกาศว่าผมได้รับรางวัลจากสวรรค์ 
ให้เป็นผู้โชคดีจากแคมเปญโปรโมชั่นพิเศษสามารถกลับไปมีชีวิตบนโลกได้อีกครั้ง
แต่...ต้องอยู่ในร่างที่สวรรค์เลือกให้ คือ โคบายาชิ มาโคโตะ
โดยมีครอบครัวของมาโคโตะเป็น ' โฮมสเตย์' และมีทูตสวรรค์แสนกลอย่างปูระปูระคอยเป็นพี่เลี้ยง

ว่าแต่ 'ผม' จะสามารถกลับมาดำเนินชีวิตในโลกนี้ได้อย่างเป็นสุขและพึงพอใจหรือไม่หนอ
ในเมื่อครอบครัวโฮมสเตย์ของผมนั้นช่างเต็มไปด้วยปัญหาสารพันสารเพ
ทั้งพ่อที่เห็นแก่ตัว แม่ตกงาน พี่ชายเย็นชา หนำซ้ำสาวที่ผมชื่นชอบก็มีพฤติกรรมน่าละอาย
แถมบรรดาเพื่อนๆ ก็ไม่คบผมอีกต่างหาก

มิน่าล่ะ...โคบายาชิ มาโคโตะ ถึงต้องฆ่าตัวตาย อำลาร่างกายซึ่ง 'ผม' มาอยู่แทนที่นี้...

เมื่อสวรรค์ให้รางวัลผม นิยายแนว Heart Warming Comedy

เมื่อสวรรค์ให้รางวัลผม จัดอยู่ในวรรณกรรมประเภท Heart Warming Comedy
หรือเรียกภาษาไทยได้ว่า "วรรณกรรมอารมณ์สดใส"
แม้ว่ามองเผินๆ เมื่อสวรรค์ให้รางวัลผม เป็นนิยายเคร่งเครียดชวนเศร้าหมอง
ทั้งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการฆ่าตัวตายดูเหมือนจะเป็นเรื่องโศกนาฎกรรม
แต่ด้วยฝีมือของ โมริ เอโตะ นักเขียนวรรณกรรมเยาวชนมือรางวัล
ตลอดจนการผูกเรื่องของหนังสือเล่มนี้ทำได้ดีมาก

ชีวิตของ มาโคโตะ จึงพลิกผันจากอมทุกข์อันดำมืดมาพบเจอความสุข สนุกสนานหลากสีสันได้
ซึ่ง โมริ เอโตะ ได้แสดงให้ผู้อ่านเห็นชัดเจนว่า บรรดาความอบอุ่นในครอบครัว
และกำลังใจในการดำเนินชีวิตเหล่านี้ ไม่ใช่สิ่งไกลเกินเอื้อมเลย
ขอเพียงเรามองคนรอบข้างในแง่ดีขึ้น มองให้รอบด้านขึ้น
ที่สำคัญคือ สื่อสารกันมากขึ้น บนพื้นฐานของความรักและความปรารถนาดีต่อกัน
ซึ่งนับวันจะหดหายไปในสังคมที่เร่งรีบ การที่เราไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียวได้บนโลกใบนี้
เราต้องมีเพื่อน และการคิดฆ่าตัวตายไม่ใช่ทางออกของการแก้ไขปัญหา

กลวิธีการแต่งเรื่องของ โมริ  เอโตะ น่าสนใจ เนื่องจากมีการสร้างตัวละครที่หลากหลายลักษณะ
ทั้งยังมีการปรับเปลี่ยนอารมณ์ของผู้อ่านอยู่ตลอดเวลา
มีทั้งเศร้า ขบขัน ลุ้นระทึก สร้างความฉงน และชวนติดตาม
ซึ่งการปรับเปลี่ยนอารมณ์ของเรื่องเช่นนี้ช่วยกระตุ้นให้ผู้อ่านทำความเข้าใจในเรื่องราวต่างๆ
ทั้งของผมและของมาโคโตะ ร่วมค้นหาและเป็นกังวลไปพร้อมๆ กับตัวละคร

หนังสือเล่มนี้มิได้เหมาะสำหรับเยาวชนแต่เพียงอย่างเดียว 
แต่ยังเหมาะสำหรับนักอ่านที่เป็นผู้ใหญ่ด้วย 

เนื่องจากเนื้อหาในเรื่องอาจช่วยสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับมุมมอง พฤติกรรมของวัยรุ่นเพิ่มขึ้น
อีกทั้งส่วนหนึ่งของความขัดแย้งระหว่างวัยรุ่นกับผู้ใหญ่คือ ความไม่เข้าใจต่อกัน
ด้วยเหตุนี้หากเป็นไปได้ที่คนสองวัยเปิดใจทำความเข้าใจและเรียนรู้กันให้มาก
รวมทั้งพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดซึ่งกันและกันอย่างไม่ปิดกั้นตัวเองจนเกินไป
ก็จะช่วยสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างคนสองวัยได้
เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์สะเทือนใจที่ซ้ำรอยอย่างเช่นในกรณีของมาโคโตะ...