คิดๆ ดูแล้วก็ใจหายวาบเหมือนกัน หนึ่งปีผ่านไปพร้อมกับเรื่องราวต่างๆ มากมายหลายรสชาติ
สำหรับผมนั้น ปีที่กำลังจะเก่านับเป็นปีซึ่งน่าจะอ่านหนังสือได้น้อยลง สัมผัสหน้ากระดาษน้อยลง
กลายเป็นว่ายิ่งอายุมากขึ้น ชีวิตและสายตากลับต้องมาเพิ่งพิศหน้าจอสี่เหลี่ยมๆ เพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกันก็ดูโทรทัศน์น้อยลง พูดคุยน้อยลง และปฏิสัมพันธ์กับผู้คนลดลง...
มีหนังสือหลายเล่มที่อยากเปิดอ่านทว่าจนแล้วจนเล่าก็ไม่ได้หยิบมาอ่าน
และก็มีหนังสือเก่าเก็บอีกมากมายที่อยากอ่านซ้ำ แต่ก็ยังหาเวลามารื้อฟื้นไม่ได้สักที
อีกไม่กี่ชั่วโมง...เสียงเฉลิมฉลองเพื่อต้อนรับปีใหม่ก็จะโหมโรงเปิดฉากขึ้น
นับเป็นช่วงวันหยุดและห้วงเวลาแห่งความสุขของคนมากมาย...
บล็อก แนะนำหนังสือสอง เล็กๆ นี้ ก็ขอส่งความสุขและความปีติยินดีแด่คนไทยทุกท่านด้วย
กระนั้น, ด้วยพอเขียนบทกลอนตามประสามือสมัครเล่น จึงใคร่อยากจดจารความรู้สึกบางอย่างบ้าง
แล้วปีหน้าฟ้าใหม่ค่อยกลับมาพบกันอีกครั้ง...พร้อมความหวังและความฝันแสนสวยงามกัน
อำลาอาลัย ปี พ.ศ. 2555 |
ลาแล้วลาลับ...ลาทีปี ๒๕๕๕
ที่ผ่านไปแล้วผ่านมา และผ่านหาย
ผ่านเรื่องราวเหนื่อยยากแสนมากมาย
ผ่านทั้งสิ่งดีและร้ายหลากหลายครัน
อาจร้องไห้ในบางคืนที่เมาค้าง
มียิ้มบ้างในบางคราที่น่าขัน
อาจย่ำแย่ย่อยยับกับบางวัน
มีหัวเราะเยาะหยันบางเวลา
ปีเก่าใกล้ผ่านพ้นอีกหนแล้ว
พาใจแป้วจิตป่วนรัญจวนหา
วันวัยล่วงผ่านเลย...เคยผ่านมา
ก็ผ่านไปในพริบตาเพียงชั่วคืน
ขอความทุกข์เข็ญทวีของปีก่อน
ซึ่งบั่นทอนชีวิตจนเกินทนฝืน
บรรเทาลงสิ้นมลายกลายเป็นฟืน
ที่พร้อมลุกโชนชื่นเมื่อตื่นเช้า
ลุกเป็นไฟให้ความหวังดังตะวัน
แผดสาดแสงเสกสรรดับความเศร้า
พานพบทางสายหมอกขาวพราวพริ้งเพรา
ทอดทับตามทางสีเทาแสนเปล่าดาย
ลาแล้วลาล่วง ปี ๒๕๕๕
ฝากน้ำตาความบัดซบสยบพ่าย
ปลดตรวนพันธนาการร้าวรานร้าย
จงลาลับลิบหายไปพร้อมกัน
ขออำลาปีเก่า...เมาทิ้งทวน
ดื่มประชดฤดูแปรปรวน โลกผวนผัน
แด่อดีตที่ยับเยินเกินจำนรรจ์
ลมหายใจที่เหลือนั้นสู้แค่ตาย...
***